คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาบำเหน็จบำนาญหรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นขององคมนตรี พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) เป็นประธานกรรมการฯ แล้ว และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง(นายวราเทพ รัตนากร) เสนอ และให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 229วรรคสอง บัญญัติให้บำเหน็จบำนาญหรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นขององคมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่ง ให้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาเช่นเดียวกับตำแหน่งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา กระทรวงการคลังจึงได้ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องขึ้น 3 ฉบับ โดยได้ปรับปรุงตามสรุปผลการหารือของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาก็ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย จากผลการหารือร่วมกันได้ข้อสรุปว่า ควรให้มีการเสนอแยกกฎหมายออกเป็นขององคมนตรี ฝ่ายบริหารและฝ่ายรัฐสภา ในชั้นนี้ กระทรวงการคลังจึงขอเสนอเฉพาะร่างพระราชกฤษฎีกาบำเหน็จบำนาญหรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นขององคมนตรี พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการก่อน และเพื่อให้เกณฑ์กำหนดระยะเวลาดำรงตำแหน่งกับสิทธิที่จะได้รับบำนาญขององคมนตรีสอดคล้องกับเกณฑ์ที่ฝ่ายรัฐสภากำลังพิจารณาอยู่เห็นควรแก้ไขการคำนวณบำเหน็จบำนาญในส่วนของเกณฑ์ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง และสิทธิรับบำนาญตามร่างมาตรา 8เป็นดังนี้
1. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 3 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 30 ของเงินประจำตำแหน่ง
2. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 7 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ40 ของเงินประจำตำแหน่ง
3. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 12 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 50 ของเงินประจำตำแหน่ง
4. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 15 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 60 ของเงินประจำตำแหน่ง
5. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 20 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 70 ของเงินประจำตำแหน่ง
สำหรับสิทธินับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเพื่อประโยชน์ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญได้ตามพระราชกฤษฎีกานี้ ให้เริ่มตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้คือวันที่ 11 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเร่งดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายที่เหลืออีก 2 ฉบับ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 30 ต.ค. 44--
-สส-
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 229วรรคสอง บัญญัติให้บำเหน็จบำนาญหรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นขององคมนตรีซึ่งพ้นจากตำแหน่ง ให้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาเช่นเดียวกับตำแหน่งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา กระทรวงการคลังจึงได้ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องขึ้น 3 ฉบับ โดยได้ปรับปรุงตามสรุปผลการหารือของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาก็ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย จากผลการหารือร่วมกันได้ข้อสรุปว่า ควรให้มีการเสนอแยกกฎหมายออกเป็นขององคมนตรี ฝ่ายบริหารและฝ่ายรัฐสภา ในชั้นนี้ กระทรวงการคลังจึงขอเสนอเฉพาะร่างพระราชกฤษฎีกาบำเหน็จบำนาญหรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นขององคมนตรี พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการก่อน และเพื่อให้เกณฑ์กำหนดระยะเวลาดำรงตำแหน่งกับสิทธิที่จะได้รับบำนาญขององคมนตรีสอดคล้องกับเกณฑ์ที่ฝ่ายรัฐสภากำลังพิจารณาอยู่เห็นควรแก้ไขการคำนวณบำเหน็จบำนาญในส่วนของเกณฑ์ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง และสิทธิรับบำนาญตามร่างมาตรา 8เป็นดังนี้
1. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 3 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 30 ของเงินประจำตำแหน่ง
2. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 7 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ40 ของเงินประจำตำแหน่ง
3. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 12 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 50 ของเงินประจำตำแหน่ง
4. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 15 ปี ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 60 ของเงินประจำตำแหน่ง
5. มีระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 20 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิได้รับบำนาญร้อยละ 70 ของเงินประจำตำแหน่ง
สำหรับสิทธินับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเพื่อประโยชน์ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญได้ตามพระราชกฤษฎีกานี้ ให้เริ่มตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้คือวันที่ 11 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเร่งดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายที่เหลืออีก 2 ฉบับ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 30 ต.ค. 44--
-สส-