ทำเนียบรัฐบาล--4 ก.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงพิกัดอัตราศุลกากรตามที่กระทรวงการคลังเสนอ คือ ให้มีการปรับลดอัตราอากรเป็นการทั่วไปสำหรับวัตถุดิบขั้นปฐม ปัจจัยการผลิตขั้นกลาง สินค้าทุนและสินค้าอื่น ๆ อีกจำนวน 542 รายการ เพิ่มเติมจากที่ได้ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 เพื่อลดต้นทุนการผลิตซึ่งจะทำให้ภาคการผลิตสามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับการค้าโลก
การปรับลดอากรครั้งนี้จะทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. ลดอัตราอากรขาเข้ากระดาษ อลูมิเนียมฟอล์ย โพลีเอทิลีน แผ่นอลูมิเนียม เหลือ TMBP ซึ่งเป็นปัจจัยในการผลิตบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ กล่องกระดาษพาลเจอร์ไรส์ กระป๋องเครื่องดื่ม ถุงพลาสติกปลอดเชื้อและชนิดเคลือบอลูมิเนียม โดยลดอัตราอากรจากร้อยละ 10 20 และ 30 เหลือร้อยละ 1 ยกเว้นกล่องกระดาษสำหรับบรรจุอาหาร และกระดาษเคลือบที่นำเข้ามาพิมพ์ให้ลดเหลือร้อยละ 5 และถุงพลาสติกเคลือบอลูมีเนียม เหลือร้อยละ 15
2. ลดอัตราอากรเยื่อใยยาว และผ้าสำหรับใช้กับเครื่องจักร (felt) จากร้อยละ 5 และ 10 เหลือร้อยละ 1 ซึ่งเป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ
3. ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยางจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 และยางสังเคราะห์ที่ใช้ ผสมกับยางธรรมชาติเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยางมีคุณภาพ จากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10
4. ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์เหลือร้อยละ 1 สารปรุงแต่งสี และเคลือบเงา เหลือร้อยละ 5 ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส์
5. ลดอัตราอากรปัจจัยการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ปัจจัยการผลิตเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ5 และเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ 10
6. ลดอัตราอากรลวดเหล็กสแตนเลส เหล็กกล้ารอบสูงใช้ทำใบมีดใบเลื่อยจากร้อยละ 10 และ 12 เหลือร้อยละ 1
7. ลดอัตราอากรเครื่องจักร และอุปกรณ์ เช่น เครื่องอัดลม วาล์วนิรภัย มอเตอร์ และเครื่องจักรอื่น ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งภาคการผลิตสามารถปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยและเหมาะสมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง เหลือร้อยละ 3
8. สินค้าอื่น ๆ เช่น ไม้เท้าสำหรับคนพิการลดเหลือร้อยละ 0 เศษเนื้อสำหรับเป็นอาหารสัตว์ ไม้สนที่ขัดเข้าลิ้น เยื่อไม้เคมีชนิดละลายน้ำได้ เหลือร้อยละ 1 คาร์บอกซิโพลิเมทิลีนที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องสำอาง สารที่มีไททาเนียมไดออกไซด์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เหลือร้อยละ 5 ชอคโกเล็ตและอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ที่มีโกโก้เพื่อให้ไทยเป็นฐานในการผลิต เหลือร้อยละ 10
9. ได้ปรับลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ ที่เป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ พลาสติก ยาง กระดาษ เภสัชกรรม และการแพทย์ เป็นต้น เหลือร้อยละ 1 ยกเว้นบางรายการเหลือร้อยละ 5 และ 10
กระทรวงการคลังเชื่อมั่นว่า มาตรการปรับปรุงอัตราอากรขาเข้าครั้งนี้ มีทั้งหมด 542 รายการ แม้จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ประมาณปีละ 3,300 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถเก็บภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ประโยชน์จากการที่ต้นทุนต่ำลง ซึ่งสามารถแข่งขันกับต่างประเทศ และหวังว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการลดภาษีครั้งนี้ โดยสามารถซื้อสินค้าในราคาที่ต่ำลง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 ก.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงพิกัดอัตราศุลกากรตามที่กระทรวงการคลังเสนอ คือ ให้มีการปรับลดอัตราอากรเป็นการทั่วไปสำหรับวัตถุดิบขั้นปฐม ปัจจัยการผลิตขั้นกลาง สินค้าทุนและสินค้าอื่น ๆ อีกจำนวน 542 รายการ เพิ่มเติมจากที่ได้ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 เพื่อลดต้นทุนการผลิตซึ่งจะทำให้ภาคการผลิตสามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับการค้าโลก
การปรับลดอากรครั้งนี้จะทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. ลดอัตราอากรขาเข้ากระดาษ อลูมิเนียมฟอล์ย โพลีเอทิลีน แผ่นอลูมิเนียม เหลือ TMBP ซึ่งเป็นปัจจัยในการผลิตบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ กล่องกระดาษพาลเจอร์ไรส์ กระป๋องเครื่องดื่ม ถุงพลาสติกปลอดเชื้อและชนิดเคลือบอลูมิเนียม โดยลดอัตราอากรจากร้อยละ 10 20 และ 30 เหลือร้อยละ 1 ยกเว้นกล่องกระดาษสำหรับบรรจุอาหาร และกระดาษเคลือบที่นำเข้ามาพิมพ์ให้ลดเหลือร้อยละ 5 และถุงพลาสติกเคลือบอลูมีเนียม เหลือร้อยละ 15
2. ลดอัตราอากรเยื่อใยยาว และผ้าสำหรับใช้กับเครื่องจักร (felt) จากร้อยละ 5 และ 10 เหลือร้อยละ 1 ซึ่งเป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ
3. ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยางจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 และยางสังเคราะห์ที่ใช้ ผสมกับยางธรรมชาติเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยางมีคุณภาพ จากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10
4. ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์เหลือร้อยละ 1 สารปรุงแต่งสี และเคลือบเงา เหลือร้อยละ 5 ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส์
5. ลดอัตราอากรปัจจัยการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ปัจจัยการผลิตเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ5 และเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ 10
6. ลดอัตราอากรลวดเหล็กสแตนเลส เหล็กกล้ารอบสูงใช้ทำใบมีดใบเลื่อยจากร้อยละ 10 และ 12 เหลือร้อยละ 1
7. ลดอัตราอากรเครื่องจักร และอุปกรณ์ เช่น เครื่องอัดลม วาล์วนิรภัย มอเตอร์ และเครื่องจักรอื่น ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งภาคการผลิตสามารถปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยและเหมาะสมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง เหลือร้อยละ 3
8. สินค้าอื่น ๆ เช่น ไม้เท้าสำหรับคนพิการลดเหลือร้อยละ 0 เศษเนื้อสำหรับเป็นอาหารสัตว์ ไม้สนที่ขัดเข้าลิ้น เยื่อไม้เคมีชนิดละลายน้ำได้ เหลือร้อยละ 1 คาร์บอกซิโพลิเมทิลีนที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องสำอาง สารที่มีไททาเนียมไดออกไซด์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เหลือร้อยละ 5 ชอคโกเล็ตและอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ที่มีโกโก้เพื่อให้ไทยเป็นฐานในการผลิต เหลือร้อยละ 10
9. ได้ปรับลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ ที่เป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ พลาสติก ยาง กระดาษ เภสัชกรรม และการแพทย์ เป็นต้น เหลือร้อยละ 1 ยกเว้นบางรายการเหลือร้อยละ 5 และ 10
กระทรวงการคลังเชื่อมั่นว่า มาตรการปรับปรุงอัตราอากรขาเข้าครั้งนี้ มีทั้งหมด 542 รายการ แม้จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ประมาณปีละ 3,300 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถเก็บภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ประโยชน์จากการที่ต้นทุนต่ำลง ซึ่งสามารถแข่งขันกับต่างประเทศ และหวังว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการลดภาษีครั้งนี้ โดยสามารถซื้อสินค้าในราคาที่ต่ำลง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 ก.ค. 2543--
-สส-