คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการแสดงความจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการเตรียมการจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
พณ. รายงานว่า
1. การจัดทำ FTA กับ EAEU จะช่วยลดอุปสรรคการค้ากับประเทศสมาชิก EAEU และเพิ่มโอกาสการลงทุน นอกจากนี้ การส่งออกของทั้งไทยและ EAEU จะขยายตัวและทำให้สวัสดิภาพของประชากรดีขึ้น การจ้างงานของไทยเพิ่มขึ้นทุกกรณี การบริโภค การลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐของไทยเติบโตขึ้นแต่การนำเข้าลดลงเล็กน้อย
2. กลุ่มสหภาพศุลกากรรัสเซีย คาซัคสถาน และเบลารุส มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอีกมาก อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในรัสเซีย จะเป็นโอกาสสำหรับสินค้าส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นในระยะกลางและระยะยาว
3. การจัดทำ FTA กับ EAEU จะเป็นประโยชน์กับไทยในภาพรวม ดังนี้
1) อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ที่ ร้อยละ 0.0717 - 0.2029 โดยการที่ไทยและ EAEU มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ต่างกันจะเป็นโอกาสสำหรับการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกัน
2) สินค้าที่ไทยมีศักยภาพแข่งขันในตลาด EAEU มีมูลค่ามากกว่ามูลค่าสินค้าอ่อนไหวของไทย โดยสาขาที่ไทยจะได้ประโยชน์ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์เหล็ก สาขาที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ เคมีภัณฑ์อนินทรีย์ ปุ๋ย เหล็กและเหล็กกล้า การค้าบริการที่ไทยมีศักยภาพแข่งขัน คือ การท่องเที่ยว สาขาบริการอ่อนไหวของไทย คือ บริการก่อสร้าง
3) ไทยสามารถใช้ EAEU เป็นช่องทางจำหน่ายไปประเทศเอเชียกลางต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 สิงหาคม 2559--