ทำเนียบรัฐบาล--4 ม.ค.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐกรณีโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดสภาวะมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ของคณะกรรมการ ป.ป.ป. ตามที่สำนักงาน ป.ป.ป. เสนอ ซึ่งแยกออกเป็นมาตรการระยะสั้น และมาตรการระยะยาว สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
มาตรการระยะสั้น
1. ตรวจสอบและควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ
1.1 ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานเจ้าของเรื่องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ ระยะเวลา และแนวทางการประสานงานในอันที่จะทำให้การปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบและควบคุมการก่อมลพิษของโรงงาน
1.2 เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมในแต่ละจังหวัดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเพิ่มเติม คือ นอกจากมีอำนาจสั่งการให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจดังต่อไปนี้ด้วย คือ
1) ในกรณีที่เห็นสมควร ให้มีอำนาจอนุมัติให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจผูกพันประทับตราเพื่อมิให้เครื่องจักรทำงานได้ในระหว่างที่ผู้ประกอบกิจการต้องปฏิบัติตามคำสั่ง
2) ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานยังจงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว โดยไม่มีเหตุผลสมควร ให้มีอำนาจที่จะสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานนั้นหยุดประกอบกิจการโรงงานเป็นการชั่วคราวได้
2. การตรวจสอบและควบคุมโดยประชาชน บุคคลทั่วไปและองค์กรภาคเอกชน
2.1 ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดให้จังหวัดที่มีประชาชนซึ่งอยู่อาศัยในพื้นที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับการสนับสนุนการจัดตั้งองค์กรชุมชนเพื่อติดตามเฝ้าระวังและดูแลปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรม
2.2 ให้กระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณากำหนดการปลูกฝังเยาวชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอน
2.3 ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณาที่จะให้องค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.1 ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษพิจารณาให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3.2 เพื่อให้พนักงานส่วนท้องถิ่นสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบและควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมตาม 3.1ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรให้บุคคลเหล่านี้มีความรู้เกี่ยวกับการติดตามเฝ้าระวังดูแลและตรวจสอบปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรม
4. ปัญหาเกี่ยวเนื่องกับการตรวจสอบและควบคุม
4.1 ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการออกกฎกระทรวง ข้อบังคับประกาศต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการตรวจสอบควบคุม กำกับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาออกระเบียบตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ. 2535
4.2 เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมฉวยโอกาสลักลอบระบายน้ำทิ้ง อากาศเสีย หรือมลพิษอื่นใด ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ได้พิจารณาจัดหาและจัดให้มีอุปกรณ์ที่สามารถใช้เพื่อการติดตามเฝ้าระวังได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
มาตรการระยะยาว
1. ให้กรมควบคุมมลพิษได้เสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณายกเว้นหรือลดภาษีสำหรับเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ รวมทั้งสารเคมีหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด ที่ประกอบกิจการโรงงานได้จัดหามาเพื่อใช้ในระบบการบำบัดและกำจัดมลพิษ
2. ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้สิทธิประโยชน์แก่โรงงานที่จะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนอากรขาเข้าหรือภาษีการค้า สำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้นำมาเพื่อใช้การบำบัดและกำจัดมลพิษ
3. ในกรณีที่โรงงานอุตสาหกรรมซึ่งได้รับการสนับสนุนในลักษณะดังกล่าวตาม 1 และ 2 แล้ว ภายหลังได้กระทำการในลักษณะที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจนถึงขั้นมีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการ ให้ส่วนราชการสั่งระงับการให้สิทธิประโยชน์ของโรงงานอุตสาหกรรมเสียทั้งหมด
4. ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจพิจารณาให้การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐาน (มอก. 14000 หรือ ISO.14000)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 มกราคม 2543--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐกรณีโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดสภาวะมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ของคณะกรรมการ ป.ป.ป. ตามที่สำนักงาน ป.ป.ป. เสนอ ซึ่งแยกออกเป็นมาตรการระยะสั้น และมาตรการระยะยาว สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
มาตรการระยะสั้น
1. ตรวจสอบและควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ
1.1 ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานเจ้าของเรื่องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ ระยะเวลา และแนวทางการประสานงานในอันที่จะทำให้การปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบและควบคุมการก่อมลพิษของโรงงาน
1.2 เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมในแต่ละจังหวัดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเพิ่มเติม คือ นอกจากมีอำนาจสั่งการให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจดังต่อไปนี้ด้วย คือ
1) ในกรณีที่เห็นสมควร ให้มีอำนาจอนุมัติให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจผูกพันประทับตราเพื่อมิให้เครื่องจักรทำงานได้ในระหว่างที่ผู้ประกอบกิจการต้องปฏิบัติตามคำสั่ง
2) ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานยังจงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว โดยไม่มีเหตุผลสมควร ให้มีอำนาจที่จะสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานนั้นหยุดประกอบกิจการโรงงานเป็นการชั่วคราวได้
2. การตรวจสอบและควบคุมโดยประชาชน บุคคลทั่วไปและองค์กรภาคเอกชน
2.1 ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดให้จังหวัดที่มีประชาชนซึ่งอยู่อาศัยในพื้นที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับการสนับสนุนการจัดตั้งองค์กรชุมชนเพื่อติดตามเฝ้าระวังและดูแลปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรม
2.2 ให้กระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณากำหนดการปลูกฝังเยาวชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอน
2.3 ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณาที่จะให้องค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.1 ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษพิจารณาให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3.2 เพื่อให้พนักงานส่วนท้องถิ่นสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบและควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมตาม 3.1ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรให้บุคคลเหล่านี้มีความรู้เกี่ยวกับการติดตามเฝ้าระวังดูแลและตรวจสอบปัญหาการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรม
4. ปัญหาเกี่ยวเนื่องกับการตรวจสอบและควบคุม
4.1 ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการออกกฎกระทรวง ข้อบังคับประกาศต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการตรวจสอบควบคุม กำกับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาออกระเบียบตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ. 2535
4.2 เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมฉวยโอกาสลักลอบระบายน้ำทิ้ง อากาศเสีย หรือมลพิษอื่นใด ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ได้พิจารณาจัดหาและจัดให้มีอุปกรณ์ที่สามารถใช้เพื่อการติดตามเฝ้าระวังได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
มาตรการระยะยาว
1. ให้กรมควบคุมมลพิษได้เสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณายกเว้นหรือลดภาษีสำหรับเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ รวมทั้งสารเคมีหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด ที่ประกอบกิจการโรงงานได้จัดหามาเพื่อใช้ในระบบการบำบัดและกำจัดมลพิษ
2. ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้สิทธิประโยชน์แก่โรงงานที่จะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนอากรขาเข้าหรือภาษีการค้า สำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้นำมาเพื่อใช้การบำบัดและกำจัดมลพิษ
3. ในกรณีที่โรงงานอุตสาหกรรมซึ่งได้รับการสนับสนุนในลักษณะดังกล่าวตาม 1 และ 2 แล้ว ภายหลังได้กระทำการในลักษณะที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจนถึงขั้นมีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการ ให้ส่วนราชการสั่งระงับการให้สิทธิประโยชน์ของโรงงานอุตสาหกรรมเสียทั้งหมด
4. ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจพิจารณาให้การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐาน (มอก. 14000 หรือ ISO.14000)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 มกราคม 2543--