คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิก Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ กค. (กรมสรรพากร) เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมและรองรับการเข้าสู่การประเมินระบบการจัดเก็บภาษีของ แต่ละประเทศในการรองรับ การแลกเปลี่ยนข้อมูล (Peer Review) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการเตรียมความพร้อมดังกล่าวจะต้องแสดงให้เห็นว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่การประเมินแล้วจะได้รับผลการประเมินในระดับที่น่าพอใจและสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างแท้จริง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า
1. Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes(Global Forum) เป็นเวทีการประชุมและประเมินศักยภาพของประเทศสมาชิกโดยมุ่งเน้นการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีตามมาตราฐานสากลขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา [Organisation for Economic Co-operation and Development (OECDI)] เพื่อป้องกันการหลบหนีและหลีกเลี่ยงภาษีระหว่างประเทศ ขจัดอาชญากรรมทางภาษีข้ามชาติ และแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส่ในระบบภาษีของแต่ละประเทศ ปัจจุบันมีสมาชิก 134 ประเทศ โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียนสมัครเข้าเป็นสมาชิกแล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงค์โปร มาเลเซีย ฟิลิปินส์ และอินโดนีเซียในส่วนของประเทศไทยได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก เมื่อปี 2555 แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงประสบวิกฤตอุทกภัยซึ่งต้องได้รับฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนประกอบกับต้องเตรียมการปรับปรุงกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีตามแนวปฏิบัติของมาตราฐานสากล จึงยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ
2. การสมัครเข้าเป็นสมาชิก Global Forum จะช่วยป้องกันธุรกิจที่หลบเลี่ยงภาษี โดยเฉพาะธุรกรรมทางการเงินที่กระทำผ่านสถาบันการเงินและการถ่ายโอนไปกลุ่มประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ อีกทั้งสอดคล้องกับกรอบความร่วมมือด้านภาษีอากรระหว่างสมาชิกอาเซียนใน AEC Blueprint 2025 และส่งเสริมการขยายการลงทุนของไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว นอกจากนี้จะช่วยผลักดันให้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายภายในของไทยในส่วนที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 สิงหาคม 2559--