แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ร่างพระราชบัญญัติ
สำนักนายกรัฐมนตรี
กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงมหาดไทย
ทำเนียบรัฐบาล--5 ก.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับหลักการร่างพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยโรงแรมได้บังคับใช้มาเป็นเวลานานตั้งแต่ พ.ศ. 2478 แล้ว และมีบทบัญญัติบางมาตราไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน เพื่อให้มีความเหมาะสมและเกิดประสิทธิผลในการปฏิบัติตามกฎหมาย จึงปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยโรงแรมดังกล่าว
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ได้บัญญัติความหมายของสถานที่ที่เป็นโรงแรม หรือไม่เป็นหรือได้รับยกเว้นให้เป็นปัจจุบัน
2. ให้มีคณะกรรมการธุรกิจโรงแรมคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนผู้ประกอบการ และผู้ทรงคุณวุฒิรวม 16 คน มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายโรงแรม
3. การออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมต้องเป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร กฎหมายสิ่งแวดล้อม และกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
4. กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตไว้เป็นการเฉพาะ
5. การกำหนดเขตท้องที่ที่จะงดออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามความเหมาะสมของท้องที่หรือการใช้ประโยชน์ของพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายอื่น
6. นายทะเบียนต้องแจ้งการออกใบอนุญาตหรือไม่ออกใบอนุญาติให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ และต้องแจ้งเหตุผลการไม่อนุญาต การโอนใบอนุญาตต้องแจ้งต่อนายทะเบียน เมื่ออนุญาตแล้วจึงจะมีผล
7. การอุทธรณ์การไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตให้อุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ต่อคณะกรรมการ และระหว่างอุทธรณ์ให้ดำเนินกิจการต่อไปได้
8. ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ถูกสั่งพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตให้มีสิทธิอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
9. ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องควบคุมดูแลไม่ให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโรงแรมให้ผิดไปจากแผนผังแบบแปลนที่ได้ยื่นไว้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ
10. กำหนดให้นายทะเบียนหรือผู้ได้รับมอบหมายเท่านั้นที่จะตรวจค้นได้ตามที่กำหนดไว้ สำหรับการตรวจค้นส่วนอื่นของโรงแรม ให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 5 ก.ย. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับหลักการร่างพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยโรงแรมได้บังคับใช้มาเป็นเวลานานตั้งแต่ พ.ศ. 2478 แล้ว และมีบทบัญญัติบางมาตราไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน เพื่อให้มีความเหมาะสมและเกิดประสิทธิผลในการปฏิบัติตามกฎหมาย จึงปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยโรงแรมดังกล่าว
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ได้บัญญัติความหมายของสถานที่ที่เป็นโรงแรม หรือไม่เป็นหรือได้รับยกเว้นให้เป็นปัจจุบัน
2. ให้มีคณะกรรมการธุรกิจโรงแรมคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนผู้ประกอบการ และผู้ทรงคุณวุฒิรวม 16 คน มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายโรงแรม
3. การออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมต้องเป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร กฎหมายสิ่งแวดล้อม และกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
4. กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตไว้เป็นการเฉพาะ
5. การกำหนดเขตท้องที่ที่จะงดออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามความเหมาะสมของท้องที่หรือการใช้ประโยชน์ของพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายอื่น
6. นายทะเบียนต้องแจ้งการออกใบอนุญาตหรือไม่ออกใบอนุญาติให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ และต้องแจ้งเหตุผลการไม่อนุญาต การโอนใบอนุญาตต้องแจ้งต่อนายทะเบียน เมื่ออนุญาตแล้วจึงจะมีผล
7. การอุทธรณ์การไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตให้อุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ต่อคณะกรรมการ และระหว่างอุทธรณ์ให้ดำเนินกิจการต่อไปได้
8. ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ถูกสั่งพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตให้มีสิทธิอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
9. ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องควบคุมดูแลไม่ให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโรงแรมให้ผิดไปจากแผนผังแบบแปลนที่ได้ยื่นไว้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ
10. กำหนดให้นายทะเบียนหรือผู้ได้รับมอบหมายเท่านั้นที่จะตรวจค้นได้ตามที่กำหนดไว้ สำหรับการตรวจค้นส่วนอื่นของโรงแรม ให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 5 ก.ย. 2543--
-สส-