คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส และให้เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
2. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำและส่งมอบสัตยาบันสารความตกลงปารีสต่อเลขาธิการสหประชาชาติในฐานะผู้เก็บรักษาเอกสาร
สาระสำคัญของการให้สัตยาบันสารเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงเป็นปารีส เป็นการแสดงเจตจำนงของไทยในการร่วมมือกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และทำให้ความตกลงปารีสมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 หลังจากวันที่ภาคีอนุสัญญาอย่างน้อยที่สุด 55 ภาคี ซึ่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกันอย่างน้อยที่สุดประมาณร้อยละ 55 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด ได้มอบสัตยาบันสาร สารการยอมรับ สารการให้ความเห็นชอบ หรือ ภาคยานุวัติสาร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว นอกจากจะทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีทั้งในฐานะประธานกลุ่ม 77 ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศไทยในฐานะประเทศกำลังพัฒนา จะได้รับประโยชน์จากการที่ประเทศต่าง ๆ ร่วมมือกันภายใต้ความตกลงปารีสเพื่อควบคุมอุณภูมิโลกให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ ซึ่งจะส่งผลให้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศลดความรุนแรงลงได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กันยายน 2559--