ทำเนียบรัฐบาล--30 พ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกประชาคมพริกไทยระหว่างประเทศ (International Pepper Community (IPC)) ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ประชาคมพริกไทยระหว่างประเทศจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2517 อยู่ในความอุปถัมภ์ขององค์การสหประชาชาติ ปัจจุบันสมาชิกประกอบด้วยประเทศผู้ผลิตพริกไทยที่สำคัญของโลก 6 ประเทศ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย บราซิล ไทย และศรีลังกา และประเทศไทยได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้เข้าเป็นสมาชิก IPC เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2535 แต่ปัจจุบันสถานการณ์การผลิตพริกไทยของประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมากจากการเป็นผู้ผลิตอันดับที่ 5 ของโลก ปัจจุบันได้เลื่อนสถานะมาอยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก โดยจะมีประเทศเวียดนาม จีน และศรีลังกา ก้าวขึ้นมาแทนที่ ดังนี้ ประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับจากการเข้าเป็นสมาชิก IPC ของไทยได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากประโยชน์ที่ประเทศสมาชิก IPC จะได้รับคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิกผู้ผลิตทั้งในด้านการผลิตและการค้า รวมทั้งร่วมมือกันในการรักษาระดับราคาและขยายตลาด แต่ขณะนี้ประเทศไทยมีสถานะเป็นทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้า โดยมีตัวเลขปริมาณการนำเข้าในปี 2541 มากกว่าการส่งออก ดังนั้น ในขณะที่ไทยจำเป็นต้องเสียเงินค่าสมาชิกในจำนวนเงินประมาณหนึ่งล้านบาท/ปี เพื่อรักษาผลประโยชน์ในฐานะผู้ผลิตรายย่อย (เมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ) อีกทั้งไม่สามารถจะเข้าไปควบคุมทั้งการผลิตและคุณภาพเพื่อรักษาระดับราคาของสินค้าพริกไทยในตลาดโลกได้ จึงพบว่าประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้จากการเป็นสมาชิก IPC ไม่คุ้มค่ากับค่าสมาชิกที่เสียไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 พฤษภาคม 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกประชาคมพริกไทยระหว่างประเทศ (International Pepper Community (IPC)) ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ประชาคมพริกไทยระหว่างประเทศจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2517 อยู่ในความอุปถัมภ์ขององค์การสหประชาชาติ ปัจจุบันสมาชิกประกอบด้วยประเทศผู้ผลิตพริกไทยที่สำคัญของโลก 6 ประเทศ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย บราซิล ไทย และศรีลังกา และประเทศไทยได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้เข้าเป็นสมาชิก IPC เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2535 แต่ปัจจุบันสถานการณ์การผลิตพริกไทยของประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมากจากการเป็นผู้ผลิตอันดับที่ 5 ของโลก ปัจจุบันได้เลื่อนสถานะมาอยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก โดยจะมีประเทศเวียดนาม จีน และศรีลังกา ก้าวขึ้นมาแทนที่ ดังนี้ ประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับจากการเข้าเป็นสมาชิก IPC ของไทยได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากประโยชน์ที่ประเทศสมาชิก IPC จะได้รับคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิกผู้ผลิตทั้งในด้านการผลิตและการค้า รวมทั้งร่วมมือกันในการรักษาระดับราคาและขยายตลาด แต่ขณะนี้ประเทศไทยมีสถานะเป็นทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้า โดยมีตัวเลขปริมาณการนำเข้าในปี 2541 มากกว่าการส่งออก ดังนั้น ในขณะที่ไทยจำเป็นต้องเสียเงินค่าสมาชิกในจำนวนเงินประมาณหนึ่งล้านบาท/ปี เพื่อรักษาผลประโยชน์ในฐานะผู้ผลิตรายย่อย (เมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ) อีกทั้งไม่สามารถจะเข้าไปควบคุมทั้งการผลิตและคุณภาพเพื่อรักษาระดับราคาของสินค้าพริกไทยในตลาดโลกได้ จึงพบว่าประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้จากการเป็นสมาชิก IPC ไม่คุ้มค่ากับค่าสมาชิกที่เสียไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 พฤษภาคม 2543--
-สส-