คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเรื่องการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ด้วยวิธี Counter Trade ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และมีมติเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากัน (Barter Trade) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนและให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) ประสานการดำเนินการกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้เสนอข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีดังนี้
1. การจัดซื้อหัวรถจักร จำนวน 7 คัน ครั้งนี้ รฟท. มีแหล่งเงินพร้อมที่จะดำเนินการอยู่แล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 ที่อนุมัติในหลักการโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกสินค้า จำนวน 112 คัน และรถจักร 7 คัน วงเงิน 903.46 ล้านบาท ไปแล้ว สำหรับส่วนของงบประมาณเพื่อใช้ในการดำเนินการจัดหารถจักรดังกล่าว มีวงเงินจำนวน 630.00 ล้านบาท ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว รฟท. เป็นผู้รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายของโครงการ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ตามความเหมาะสม และการนำเสนอครั้งนี้ รฟท. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาตกลงราคาและร่างสัญญาซื้อขายรถจักรดีเซลไฟฟ้าจำนวน 7 คัน ด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้ากับผู้จำหน่ายจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำสั่ง รฟท. เฉพาะ ที่ ก. 470/7309 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2547 ซึ่งได้ทำการเจรจาทั้งทางด้านราคา และเทคนิคด้วยวิธี 100% Counter Trade ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าว ได้สรุปผลการเจรจา จนเป็นผลทำให้คณะกรรมการ รฟท. ได้มีมติให้ความเห็นชอบ ตามที่ รฟท. เสนอไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547
2. การขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี จัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้า (100% Counter Trade) ลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล (ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน) ตามที่ รฟท.เสนอมานั้น ยังไม่อาจดำเนินการได้ครบกระบวนการ หากขาดองค์กรหรือหน่วยงานเป็นผู้ดำเนินงานรับผิดชอบในการเจรจาและจัดหาสินค้าซึ่งมีมูลค่าที่เท่ากันของไทยเพื่อแลกเปลี่ยนกับสินค้ารถจักรดังกล่าวจากจีน ซึ่งในที่นี้เห็นควรให้ กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบและเป็นผู้รักษาการณ์ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการการค้าต่างตอบแทน พ.ศ. 2547 ซึ่งได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 เป็นผู้ดำเนินการให้แก่ รฟท.
3. เนื่องจากในปัจจุบัน สถานการณ์การดำเนินงานรถจักรลากจูงขบวนรถของ รฟท. ในช่วงระยะเวลา 11 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 ที่มีสภาพ ดังนี้
จำนวน(คัน) อายุการใช้งาน เฉลี่ยเข้าซ่อม เฉลี่ยจำนวนรถจักรใช้การได้ สถิติความชำรุด
ณ 30 กันยายน 47 (คัน/วัน) เฉลี่ย
(ปี) คัน/วัน % (ครั้ง/เดือน)
240 25.26 71.53 168.5 70.2 107.4
หมายเหตุ: ข้อมูลตัวเลขตามรายงานของ รฟท. ณ วันที่ 5 มกราคม 2548
ดังนั้นควรที่ รฟท. จะได้ดำเนินการจัดหารถจักรที่มีสภาพใหม่ เพื่อนำมาใช้งานโดยเร็วที่สุด เพื่อลดจำนวนสถิติความชำรุดเสียหายให้น้อยลง และเพิ่มสัดส่วนของจำนวนรถจักรที่ใช้การได้ให้มากขึ้น จนมีผลต่อการทำรายได้ของ รฟท. ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 มกราคม 2548--จบ--
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้เสนอข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีดังนี้
1. การจัดซื้อหัวรถจักร จำนวน 7 คัน ครั้งนี้ รฟท. มีแหล่งเงินพร้อมที่จะดำเนินการอยู่แล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 ที่อนุมัติในหลักการโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกสินค้า จำนวน 112 คัน และรถจักร 7 คัน วงเงิน 903.46 ล้านบาท ไปแล้ว สำหรับส่วนของงบประมาณเพื่อใช้ในการดำเนินการจัดหารถจักรดังกล่าว มีวงเงินจำนวน 630.00 ล้านบาท ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว รฟท. เป็นผู้รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายของโครงการ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ตามความเหมาะสม และการนำเสนอครั้งนี้ รฟท. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาตกลงราคาและร่างสัญญาซื้อขายรถจักรดีเซลไฟฟ้าจำนวน 7 คัน ด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้ากับผู้จำหน่ายจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำสั่ง รฟท. เฉพาะ ที่ ก. 470/7309 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2547 ซึ่งได้ทำการเจรจาทั้งทางด้านราคา และเทคนิคด้วยวิธี 100% Counter Trade ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าว ได้สรุปผลการเจรจา จนเป็นผลทำให้คณะกรรมการ รฟท. ได้มีมติให้ความเห็นชอบ ตามที่ รฟท. เสนอไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547
2. การขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี จัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้า (100% Counter Trade) ลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล (ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน) ตามที่ รฟท.เสนอมานั้น ยังไม่อาจดำเนินการได้ครบกระบวนการ หากขาดองค์กรหรือหน่วยงานเป็นผู้ดำเนินงานรับผิดชอบในการเจรจาและจัดหาสินค้าซึ่งมีมูลค่าที่เท่ากันของไทยเพื่อแลกเปลี่ยนกับสินค้ารถจักรดังกล่าวจากจีน ซึ่งในที่นี้เห็นควรให้ กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบและเป็นผู้รักษาการณ์ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการการค้าต่างตอบแทน พ.ศ. 2547 ซึ่งได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 เป็นผู้ดำเนินการให้แก่ รฟท.
3. เนื่องจากในปัจจุบัน สถานการณ์การดำเนินงานรถจักรลากจูงขบวนรถของ รฟท. ในช่วงระยะเวลา 11 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 ที่มีสภาพ ดังนี้
จำนวน(คัน) อายุการใช้งาน เฉลี่ยเข้าซ่อม เฉลี่ยจำนวนรถจักรใช้การได้ สถิติความชำรุด
ณ 30 กันยายน 47 (คัน/วัน) เฉลี่ย
(ปี) คัน/วัน % (ครั้ง/เดือน)
240 25.26 71.53 168.5 70.2 107.4
หมายเหตุ: ข้อมูลตัวเลขตามรายงานของ รฟท. ณ วันที่ 5 มกราคม 2548
ดังนั้นควรที่ รฟท. จะได้ดำเนินการจัดหารถจักรที่มีสภาพใหม่ เพื่อนำมาใช้งานโดยเร็วที่สุด เพื่อลดจำนวนสถิติความชำรุดเสียหายให้น้อยลง และเพิ่มสัดส่วนของจำนวนรถจักรที่ใช้การได้ให้มากขึ้น จนมีผลต่อการทำรายได้ของ รฟท. ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 มกราคม 2548--จบ--