ทำเนียบรัฐบาล--30 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเห็นชอบตามมติคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตรตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ในการอนุมัติในหลักการของกิจกรรมที่ 3 ภายใต้โครงการเพื่อศักยภาพการผลิตในเขตปฎิรูปที่ดินวงเงิน 177.79 ล้านบาท เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการพัฒนาให้สินค้าเกษตร (Product Unit) นอกเขตชลประทาน โดยการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติที่ที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนใช้ในการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตในเขตปฎิรูปที่ดิน จึงได้จัดทำโครงการนำร่องพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติ ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตในเขตปฎิรูปที่ดินใน 6 พื้นที่ 5 จังหวัด และสนับสนุนกิจกรรมที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพการมอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (ส.ป.ช. 4-01) และการติดตามการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรสอดคล้องตาม Policy Matrix ที่ให้ดำเนินการปีละ 2.5 ล้านไร่ รวม 4 ปี พื้นที่ 10 ล้านไร่
โครงการดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้
1. การคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายตามหลักเกรณ์ที่กำหนดไว้นั้น ควรพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการเฉพาะที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจคุ้มค่ากับการลงทุน และสอดคล้องกับการปรับปรุงพื้นที่โครงการให้เป็นหน่วยผลิตสินค้าพืชเศรษฐกิจ (Production Unit) ที่ให้ผลตอบแทนสูง
2. สำนักงานการปริรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ควรเตรียมความพร้อมของเกษตรกรให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต โดยใช้เทคนิคและวิธีการผลิตแบบใหม่ให้สอดคล้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้เอาตลาดสินค้าการเกษตรเป็นตัวชี้ นำการวางแผนการผลิตให้มีมาตรฐานและคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อการลงทุนในการผลิตและพัฒนาระบบการใช้น้ำในระบบชลประทานจุลภาค (Micro Irrigation System) อย่างเพียงพอ
3. การดำเนินงานปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน ระบบส่งน้ำและอาคารประกอบนั้น ควรมีความสอดคล้องและเป็นไปตามความต้องการของประชาชน องค์กรชุมชน และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมในทุกระดับ เพื่อให้สามารถรองรับการถ่ายโอนภารกิจให้เป็นผู้ดำเนินการต่อไปได้ในระยะยาว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 ต.ค. 2543--
-สส-
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจเห็นชอบตามมติคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตรตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ในการอนุมัติในหลักการของกิจกรรมที่ 3 ภายใต้โครงการเพื่อศักยภาพการผลิตในเขตปฎิรูปที่ดินวงเงิน 177.79 ล้านบาท เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการพัฒนาให้สินค้าเกษตร (Product Unit) นอกเขตชลประทาน โดยการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติที่ที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนใช้ในการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตในเขตปฎิรูปที่ดิน จึงได้จัดทำโครงการนำร่องพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติ ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตในเขตปฎิรูปที่ดินใน 6 พื้นที่ 5 จังหวัด และสนับสนุนกิจกรรมที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพการมอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (ส.ป.ช. 4-01) และการติดตามการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรสอดคล้องตาม Policy Matrix ที่ให้ดำเนินการปีละ 2.5 ล้านไร่ รวม 4 ปี พื้นที่ 10 ล้านไร่
โครงการดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้
1. การคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายตามหลักเกรณ์ที่กำหนดไว้นั้น ควรพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการเฉพาะที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจคุ้มค่ากับการลงทุน และสอดคล้องกับการปรับปรุงพื้นที่โครงการให้เป็นหน่วยผลิตสินค้าพืชเศรษฐกิจ (Production Unit) ที่ให้ผลตอบแทนสูง
2. สำนักงานการปริรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ควรเตรียมความพร้อมของเกษตรกรให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต โดยใช้เทคนิคและวิธีการผลิตแบบใหม่ให้สอดคล้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้เอาตลาดสินค้าการเกษตรเป็นตัวชี้ นำการวางแผนการผลิตให้มีมาตรฐานและคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อการลงทุนในการผลิตและพัฒนาระบบการใช้น้ำในระบบชลประทานจุลภาค (Micro Irrigation System) อย่างเพียงพอ
3. การดำเนินงานปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน ระบบส่งน้ำและอาคารประกอบนั้น ควรมีความสอดคล้องและเป็นไปตามความต้องการของประชาชน องค์กรชุมชน และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมในทุกระดับ เพื่อให้สามารถรองรับการถ่ายโอนภารกิจให้เป็นผู้ดำเนินการต่อไปได้ในระยะยาว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 ต.ค. 2543--
-สส-