ทำเนียบรัฐบาล--7 พ.ย..--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการกู้เงินธนาคารโลกของกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่คณะกรรมการร่างและพิจารณาโครงการกู้เงินเพื่อพัฒนาการศึกษาเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบโครงการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ 2 โครงการ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวม1,164.683 ล้านบาท โดยแยกเป็นเงินงบประมาณสมทบ 485.581 ล้านบาท และเงินกู้ธนาคารโลกจากโครงการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ในสถาบันราชภัฏ 679.102 ล้านบาท หรือประมาณ 17.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแต่ละโครงการมีค่าใช้จ่าย ดังนี้
1.1 โครงการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ระยะที่ 1 มีวงเงินค่าใช้จ่าย รวม 323.823 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินงบประมาณสมทบ 103.991 ล้านบาท และเงินกู้ธนาคารโลก 219.832 ล้านบาท หรือประมาณ 5.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
1.2 โครงการพัฒนาคุณภาพการมัธยมศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา ระยะที่ 1มีวงเงินค่าใช้จ่ายรวม 840.860 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินงบประมาณสมทบ 381.590 ล้านบาท และเงินกู้ธนาคารโลก459.270 ล้านบาท หรือประมาณ 11.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2. ให้ความเห็นชอบการเปลี่ยนแปลงการใช้เงินกู้ จำนวน 17.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากโครงการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ในสถาบันราชภัฏ ในสัญญากู้เงินเลขที่ 4052-TH เพื่อใช้ดำเนินงานโครงการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ระยะที่ 1และโครงการพัฒนาคุณภาพการมัธยมศึกษาในโรงเรียน สังกัดกรมสามัญศึกษา ระยะที่ 1 จำนวน 5.64 และ 11.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ
3. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ และกรมสามัญศึกษารายงานความก้าวหน้า ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานโครงการไปยังกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ทุก 3 เดือน
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณพิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาการศึกษาทั้ง 2 โครงการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ โดยการปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาครูผู้สอน และการจัดหาวัสดุอุปกรณ์สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ ในระยะเวลาที่ 1 ได้ดำเนินการในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 150 แห่ง และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 80 แห่ง ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 - 2545 สำหรับวงเงินที่เป็นเงินกู้ธนาคารโลกเห็นควรเปลี่ยนแปลงเงินกู้เหลือจ่ายจากโครงการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ของสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏจำนวน 679.102 ล้านบาทได้ ในส่วนที่เป็นเงินบาทสมทบนั้น สำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณในปี 2544 รองรับไว้ไม่เพียงพอ เห็นควรให้ขอทำความตกลงปรับเปลี่ยนแผนการใช้เงินกับสำนักงบประมาณให้เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ส่วนโครงการต่อเนื่อง (ระยะที่ 2) ซึ่งเป็นการขยายผลการดำเนินงานจากโครงการระยะที่ 1 นั้น ขอให้มีการพิจารณาผลสำเร็จของโครงการที่ได้ดำเนินการในระยะที่ 1 ไปแล้วเสียก่อน หากได้ผลเป็นประการใดและยังมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการโครงการต่อเนื่องต่อไปอีก ก็เห็นควรให้พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาดำเนินการโดยไม่ต้องใช้เงินกู้จากธนาคารโลกอีกต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 พ.ย. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการกู้เงินธนาคารโลกของกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่คณะกรรมการร่างและพิจารณาโครงการกู้เงินเพื่อพัฒนาการศึกษาเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบโครงการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ 2 โครงการ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวม1,164.683 ล้านบาท โดยแยกเป็นเงินงบประมาณสมทบ 485.581 ล้านบาท และเงินกู้ธนาคารโลกจากโครงการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ในสถาบันราชภัฏ 679.102 ล้านบาท หรือประมาณ 17.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแต่ละโครงการมีค่าใช้จ่าย ดังนี้
1.1 โครงการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ระยะที่ 1 มีวงเงินค่าใช้จ่าย รวม 323.823 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินงบประมาณสมทบ 103.991 ล้านบาท และเงินกู้ธนาคารโลก 219.832 ล้านบาท หรือประมาณ 5.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
1.2 โครงการพัฒนาคุณภาพการมัธยมศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา ระยะที่ 1มีวงเงินค่าใช้จ่ายรวม 840.860 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินงบประมาณสมทบ 381.590 ล้านบาท และเงินกู้ธนาคารโลก459.270 ล้านบาท หรือประมาณ 11.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2. ให้ความเห็นชอบการเปลี่ยนแปลงการใช้เงินกู้ จำนวน 17.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากโครงการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ในสถาบันราชภัฏ ในสัญญากู้เงินเลขที่ 4052-TH เพื่อใช้ดำเนินงานโครงการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ระยะที่ 1และโครงการพัฒนาคุณภาพการมัธยมศึกษาในโรงเรียน สังกัดกรมสามัญศึกษา ระยะที่ 1 จำนวน 5.64 และ 11.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ
3. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ และกรมสามัญศึกษารายงานความก้าวหน้า ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานโครงการไปยังกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ทุก 3 เดือน
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณพิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาการศึกษาทั้ง 2 โครงการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ โดยการปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาครูผู้สอน และการจัดหาวัสดุอุปกรณ์สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ ในระยะเวลาที่ 1 ได้ดำเนินการในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 150 แห่ง และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 80 แห่ง ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 - 2545 สำหรับวงเงินที่เป็นเงินกู้ธนาคารโลกเห็นควรเปลี่ยนแปลงเงินกู้เหลือจ่ายจากโครงการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ของสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏจำนวน 679.102 ล้านบาทได้ ในส่วนที่เป็นเงินบาทสมทบนั้น สำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณในปี 2544 รองรับไว้ไม่เพียงพอ เห็นควรให้ขอทำความตกลงปรับเปลี่ยนแผนการใช้เงินกับสำนักงบประมาณให้เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ส่วนโครงการต่อเนื่อง (ระยะที่ 2) ซึ่งเป็นการขยายผลการดำเนินงานจากโครงการระยะที่ 1 นั้น ขอให้มีการพิจารณาผลสำเร็จของโครงการที่ได้ดำเนินการในระยะที่ 1 ไปแล้วเสียก่อน หากได้ผลเป็นประการใดและยังมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการโครงการต่อเนื่องต่อไปอีก ก็เห็นควรให้พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาดำเนินการโดยไม่ต้องใช้เงินกู้จากธนาคารโลกอีกต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 พ.ย. 2543--
-สส-