คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้เมื่อร่างพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 มีผลใช้บังคับแล้ว
กค. เสนอว่า
1. เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์กรต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก (Anti-Pacific Group on Money Laundering-APG) ตั้งแต่ปี 2544 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2544 ซึ่งประเทศไทยในฐานะสมาชิกมีพันธกรณีที่ต้องเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยประเทศไทยมีกำหนดเข้ารับการประเมินรอบที่ 3 ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งหากประเทศไทยไม่มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายให้เป็นมาตรฐานสากล อาจส่งผลให้ประเทศไทยไม่ผ่านการประเมินดังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้ประเทศไทยผ่านการประเมินดังกล่าว จึงจะต้องดำเนินการให้ร่างอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2559 นี้
2. กค. ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับหลักการ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2559 และผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทั้ง 3 วาระแล้ว เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2559 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยเพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา 6/1 กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการส่งหรือนำเงินตรา เงินตราต่างประเทศ หรือตราสารเปลี่ยนมือออกไปนอกประเทศหรือนำเข้ามาในประเทศ ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติดังกล่าว และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2559 จึงสมควรออกกฎกระทรวงในเรื่องนี้ต่อไป
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดให้บุคคลใดจะนำเงินตราหรือเงินตราต่างประเทศที่เป็นธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ หรือตราสารเปลี่ยนมือที่มีมูลค่าเกินจำนวนที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาออกไปนอกหรือเข้ามาในประเทศ ต้องแจ้งรายการเกี่ยวกับเงินตรา เงินตราต่างประเทศ หรือตราสารเปลี่ยนมือนั้นตามแบบที่รัฐมนตรีกำหนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากรในขณะที่ผ่านศุลกากรทุกแห่ง หรือเจ้าพนักงานประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านพรมแดน หรือช่องทางอื่นใดซึ่งใช้เป็นทางออกไปนอกหรือเข้ามาในประเทศเฉพาะที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในขณะที่ผ่านด่านหรือช่องทางดังกล่าว
2. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากรหรือเจ้าพนักงานต้องรวบรวมจัดส่งข้อมูลที่ได้รับแจ้งไปยังกระทรวงการคลังและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 ตุลาคม 2559--