คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545-2549) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งเป็นการปรับปรุงร่างแผนแม่บทตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2544
ร่างแผนแม่บทดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้เพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม พ.ศ. 2490 และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519
2. ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตัดคำว่า "ออร์กาโนฟอสเฟต" ออก และแก้ไขคำว่า "สมาคมผู้ผลิตสารเคมีเกษตรนานาชาติ GIFAP" เป็น "CropLife International"
3. ในส่วนของกระทรวงการคลังได้เพิ่มกรมศุลการเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเครือข่ายข้อมูลสารเคมีแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่งเสริมศักยภาพการจัดการของเสียเคมีวัตถุ
ทั้งนี้ แผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 จะเป็นแนวทางหลักในการดำเนินงานความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุของประเทศ เพื่อให้สามารถลดและป้องกันการเสี่ยงอันตรายจากเคมีวัตถุ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากร บุคลากร และงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยมุ่งให้บรรลุผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลาที่กำหนด และกระทรวงสาธารณสุขจะได้นำแผนแม่บทดังกล่าวไปประสานให้เกิดการดำเนินงานและติดตามประเมินผลอย่างเป็นรูปธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจักได้ใช้อ้างอิงเพื่อกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการและเสนอของบประมาณของแต่ละหน่วยงานต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-
ร่างแผนแม่บทดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้เพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม พ.ศ. 2490 และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519
2. ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตัดคำว่า "ออร์กาโนฟอสเฟต" ออก และแก้ไขคำว่า "สมาคมผู้ผลิตสารเคมีเกษตรนานาชาติ GIFAP" เป็น "CropLife International"
3. ในส่วนของกระทรวงการคลังได้เพิ่มกรมศุลการเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเครือข่ายข้อมูลสารเคมีแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่งเสริมศักยภาพการจัดการของเสียเคมีวัตถุ
ทั้งนี้ แผนแม่บทฯ ฉบับที่ 2 จะเป็นแนวทางหลักในการดำเนินงานความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุของประเทศ เพื่อให้สามารถลดและป้องกันการเสี่ยงอันตรายจากเคมีวัตถุ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากร บุคลากร และงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยมุ่งให้บรรลุผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลาที่กำหนด และกระทรวงสาธารณสุขจะได้นำแผนแม่บทดังกล่าวไปประสานให้เกิดการดำเนินงานและติดตามประเมินผลอย่างเป็นรูปธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจักได้ใช้อ้างอิงเพื่อกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการและเสนอของบประมาณของแต่ละหน่วยงานต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-