ทำเนียบรัฐบาล--17 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้แต่งตั้งกรรมการพิจารณากำหนดสิทธิการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการอื่นอีก 10 คน โดยมีอำนาจหน้าที่หลักคือ กำหนดหลักเกณฑ์และกำหนดพื้นที่ที่จะมีสิทธิได้นับเวลาราชการเป็นทวีคูณระหว่างที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 2 ประการ ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการได้พิจารณาหลักเกณฑ์และเห็นสมควรให้พื้นที่ใดได้นับเวลาทวีคูณเสร็จแล้ว ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า ตามที่ได้มีการตราพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2543 โดยแก้ไขมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 บทบัญญัติดังกล่าวได้ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การนับเวลาราชการให้แก่ข้าราชการซึ่งประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาราชการทวีคูณ ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องพิจารณาถึงความจำเป็นของสถานการณ์ว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ที่มีความยากลำบากและเสี่ยงอันตรายอย่างแท้จริง อันจะก่อให้เกิดสิทธิในการนับเวลาการปฏิบัติราชการในพื้นที่นั้นๆ เป็นทวีคูณ รวมทั้งจะต้องคำนึงถึงระยะเวลาการเริ่มต้นและระยะเวลาสิ้นสุดในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณประกอบด้วย กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ในเขตประกาศกฎอัยการศึกอยู่ 20 จังหวัด (รวมเป็น 81 อำเภอ 9 กิ่งอำเภอ 3 ตำบล) และโดยที่ส่วนราชการต่าง ๆ มีข้าราชการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึกดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การกำหนดหลักเกณฑ์การนับเวลาราชการเป็นทวีคูณของข้าราชการซึ่งประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นไปด้วยความรอบคอบ และเหมาะสม จึงเห็นควรขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดสิทธิการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 ต.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้แต่งตั้งกรรมการพิจารณากำหนดสิทธิการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการอื่นอีก 10 คน โดยมีอำนาจหน้าที่หลักคือ กำหนดหลักเกณฑ์และกำหนดพื้นที่ที่จะมีสิทธิได้นับเวลาราชการเป็นทวีคูณระหว่างที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 2 ประการ ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการได้พิจารณาหลักเกณฑ์และเห็นสมควรให้พื้นที่ใดได้นับเวลาทวีคูณเสร็จแล้ว ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า ตามที่ได้มีการตราพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2543 โดยแก้ไขมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 บทบัญญัติดังกล่าวได้ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การนับเวลาราชการให้แก่ข้าราชการซึ่งประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาราชการทวีคูณ ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องพิจารณาถึงความจำเป็นของสถานการณ์ว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ที่มีความยากลำบากและเสี่ยงอันตรายอย่างแท้จริง อันจะก่อให้เกิดสิทธิในการนับเวลาการปฏิบัติราชการในพื้นที่นั้นๆ เป็นทวีคูณ รวมทั้งจะต้องคำนึงถึงระยะเวลาการเริ่มต้นและระยะเวลาสิ้นสุดในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณประกอบด้วย กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ในเขตประกาศกฎอัยการศึกอยู่ 20 จังหวัด (รวมเป็น 81 อำเภอ 9 กิ่งอำเภอ 3 ตำบล) และโดยที่ส่วนราชการต่าง ๆ มีข้าราชการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึกดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การกำหนดหลักเกณฑ์การนับเวลาราชการเป็นทวีคูณของข้าราชการซึ่งประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นไปด้วยความรอบคอบ และเหมาะสม จึงเห็นควรขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดสิทธิการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 ต.ค. 2543--
-สส-