คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสถานการณ์ภัยแล้งและการดำเนินการ ให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน สรุปได้ดังนี้
1. การปฏิบัติการฝนหลวง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งฐานปฏิบัติการ จำนวน 9 ฐาน คือ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ระยอง สงขลา และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลการดำเนินงานในช่วงตั้งแต่วันที่ 16-27 มีนาคม 2548 รวม 12 วัน ขึ้นปฏิบัติการ รวม 575 เที่ยว ทำให้มีฝนตกบริเวณกว้างขึ้นมีปริมาณ น้ำฝนที่ตกลงในพื้นที่ลุ่มน้ำต่าง ๆ ส่วนหนึ่งได้ไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่วัดปริมาณน้ำไหลลงอ่าง รวม 225.75 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉลี่ยวันละ 18.81 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับฝนบางส่วนที่ตกลงในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากสถานการณ์ภัยแล้งได้ในระยะนี้
2. สถานการณ์น้ำ
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (ปริมาตรความจุตั้งแต่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไป) ทั่วประเทศ จำนวน 30 แห่ง มีปริมาตรน้ำใช้การได้ร้อยละ 37 ของความจุที่ใช้การได้ หรือ 16,329 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าปี 2547 ร้อยละ 6 สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำน้อย จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ลำตะคอง ลำพะเพลิง ทับเสลา กระเสียว อยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 4,6,8, 7 และ 0 ของความจุที่ใช้การได้ตามลำดับ ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี มีระดับน้ำในอ่างต่ำกว่าธรณีท่อส่งน้ำ ต้องใช้วิธีกาลักน้ำส่งน้ำช่วยเหลือการประปาและอุปโภค
3. การให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน
1) กรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือแล้ว จำนวน 925 เครื่อง แบ่งเป็นภาคเหนือ 231 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 323 เครื่อง ภาคกลาง 218 เครื่อง ภาคตะวันออก 94 เครื่อง และภาคใต้ 59 เครื่อง นอกจากนี้ได้ส่งรถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน 295 คัน ไปยังจังหวัดต่าง ๆ
2) กรมส่งเสริมการเกษตร รายงานการใช้เงินทดรองราชการของจังหวัด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยฝนทิ้งช่วงวงเงิน 749.93 ล้านบาท ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 2.95 ล้านไร่ เกษตรกร 378,900 ราย รวม 41 จังหวัด
4. สถานการณ์พื้นที่ที่ได้รับความช่วยเหลือ
ผลการ X-ray พื้นที่ขาดแคลนน้ำทั่วประเทศ จำนวน 73,963 หมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2548 ปรากฏว่า ณ วันที่ 28 มีนาคม 2548
พื้นที่สีแดง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำอุปโภค — บริโภค) มีจำนวน 4,624 หมู่บ้าน ลดลง 9,123 หมู่บ้าน จาก จำนวน 13,747 หมู่บ้าน
พื้นที่สีเหลือง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำด้านปศุสัตว์และการเกษตร) มีจำนวน 7,522 หมู่บ้าน ลดลง 9,452 หมู่บ้าน จาก 16,974 หมู่บ้าน
พื้นที่สีเขียว (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำด้านการเกษตร) มีจำนวน 1,627 หมู่บ้าน เพิ่มขึ้น 43 หมู่บ้าน จาก 1,584 หมู่บ้าน เนื่องจากพื้นที่สีแดงและสีเขียวลดลง
5. การดำเนินการในระยะต่อไป
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงตามทฤษฎีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวพระราชทานต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงนี้สภาวะอากาศเหมาะสมต่อการปฏิบัติการฝนหลวง ร่วมกับการช่วยเหลือด้านเครื่องสูบน้ำและการบริการน้ำอุปโภค — บริโภค เพื่อทำให้สภาวะการขาดน้ำอุปโภค — บริโภคหมดไปจาก เขตสีแดง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะได้รับการแก้ไขเข้าสู่ภาวะปกติ การดำเนินการยังคงต่อไปเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและความชุ่มชื้นของพื้นที่ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนเครื่องบินจากเหล่าทัพและ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 24 เครื่อง ปฏิบัติการฝนหลวงร่วมกับเครื่องบินกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีอยู่แล้ว จำนวน 21 เครื่อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--
1. การปฏิบัติการฝนหลวง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งฐานปฏิบัติการ จำนวน 9 ฐาน คือ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ระยอง สงขลา และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลการดำเนินงานในช่วงตั้งแต่วันที่ 16-27 มีนาคม 2548 รวม 12 วัน ขึ้นปฏิบัติการ รวม 575 เที่ยว ทำให้มีฝนตกบริเวณกว้างขึ้นมีปริมาณ น้ำฝนที่ตกลงในพื้นที่ลุ่มน้ำต่าง ๆ ส่วนหนึ่งได้ไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่วัดปริมาณน้ำไหลลงอ่าง รวม 225.75 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉลี่ยวันละ 18.81 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับฝนบางส่วนที่ตกลงในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากสถานการณ์ภัยแล้งได้ในระยะนี้
2. สถานการณ์น้ำ
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (ปริมาตรความจุตั้งแต่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไป) ทั่วประเทศ จำนวน 30 แห่ง มีปริมาตรน้ำใช้การได้ร้อยละ 37 ของความจุที่ใช้การได้ หรือ 16,329 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าปี 2547 ร้อยละ 6 สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำน้อย จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ลำตะคอง ลำพะเพลิง ทับเสลา กระเสียว อยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 4,6,8, 7 และ 0 ของความจุที่ใช้การได้ตามลำดับ ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี มีระดับน้ำในอ่างต่ำกว่าธรณีท่อส่งน้ำ ต้องใช้วิธีกาลักน้ำส่งน้ำช่วยเหลือการประปาและอุปโภค
3. การให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน
1) กรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือแล้ว จำนวน 925 เครื่อง แบ่งเป็นภาคเหนือ 231 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 323 เครื่อง ภาคกลาง 218 เครื่อง ภาคตะวันออก 94 เครื่อง และภาคใต้ 59 เครื่อง นอกจากนี้ได้ส่งรถยนต์บรรทุกน้ำ จำนวน 295 คัน ไปยังจังหวัดต่าง ๆ
2) กรมส่งเสริมการเกษตร รายงานการใช้เงินทดรองราชการของจังหวัด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยฝนทิ้งช่วงวงเงิน 749.93 ล้านบาท ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 2.95 ล้านไร่ เกษตรกร 378,900 ราย รวม 41 จังหวัด
4. สถานการณ์พื้นที่ที่ได้รับความช่วยเหลือ
ผลการ X-ray พื้นที่ขาดแคลนน้ำทั่วประเทศ จำนวน 73,963 หมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2548 ปรากฏว่า ณ วันที่ 28 มีนาคม 2548
พื้นที่สีแดง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำอุปโภค — บริโภค) มีจำนวน 4,624 หมู่บ้าน ลดลง 9,123 หมู่บ้าน จาก จำนวน 13,747 หมู่บ้าน
พื้นที่สีเหลือง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำด้านปศุสัตว์และการเกษตร) มีจำนวน 7,522 หมู่บ้าน ลดลง 9,452 หมู่บ้าน จาก 16,974 หมู่บ้าน
พื้นที่สีเขียว (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำด้านการเกษตร) มีจำนวน 1,627 หมู่บ้าน เพิ่มขึ้น 43 หมู่บ้าน จาก 1,584 หมู่บ้าน เนื่องจากพื้นที่สีแดงและสีเขียวลดลง
5. การดำเนินการในระยะต่อไป
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงตามทฤษฎีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวพระราชทานต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงนี้สภาวะอากาศเหมาะสมต่อการปฏิบัติการฝนหลวง ร่วมกับการช่วยเหลือด้านเครื่องสูบน้ำและการบริการน้ำอุปโภค — บริโภค เพื่อทำให้สภาวะการขาดน้ำอุปโภค — บริโภคหมดไปจาก เขตสีแดง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะได้รับการแก้ไขเข้าสู่ภาวะปกติ การดำเนินการยังคงต่อไปเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและความชุ่มชื้นของพื้นที่ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนเครื่องบินจากเหล่าทัพและ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 24 เครื่อง ปฏิบัติการฝนหลวงร่วมกับเครื่องบินกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีอยู่แล้ว จำนวน 21 เครื่อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--