แท็ก
คณะรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--22 ก.พ.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2543 (ครั้งที่ 71) เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2543 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เกี่ยวกับเรื่อง การขอทบทวนบทบาทและหน้าที่ขององค์กรในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายก-รัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค) เสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบให้มีการทบทวนบทบาทและหน้าที่องค์กรในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
1.1 ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2539 ในการมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นศูนย์กลางในการประสานงานปราบปรามทางทะเล และมอบหมายให้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนกองทัพเรือในการเป็นศูนย์กลางในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งทางบกและทางทะเล
1.2 ให้กองทัพเรือ กรมสรรพสามิต กรมทะเบียนการค้า กรมศุลกากร กรมประมง กรมเจ้าท่า และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ให้ความร่วมมือทั้งด้านการประสานงานการให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิดและร่วมตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิดเมื่อได้รับการร้องขอจาก ศปนม.
1.3 มอบหมายให้ ศปนม. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดทำข้อเสนอการจัดทำโครงข่ายการประสานการปฏิบัติงานของ ศปนม. ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบการะทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติต่อไป
2. ให้กรมทะเบียนการค้า กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ร่วมกันตรวจสอบปรับปรุงข้อมูลการส่งออกน้ำมันให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2543--
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2543 (ครั้งที่ 71) เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2543 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เกี่ยวกับเรื่อง การขอทบทวนบทบาทและหน้าที่ขององค์กรในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายก-รัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค) เสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบให้มีการทบทวนบทบาทและหน้าที่องค์กรในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
1.1 ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2539 ในการมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นศูนย์กลางในการประสานงานปราบปรามทางทะเล และมอบหมายให้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนกองทัพเรือในการเป็นศูนย์กลางในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งทางบกและทางทะเล
1.2 ให้กองทัพเรือ กรมสรรพสามิต กรมทะเบียนการค้า กรมศุลกากร กรมประมง กรมเจ้าท่า และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ให้ความร่วมมือทั้งด้านการประสานงานการให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิดและร่วมตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิดเมื่อได้รับการร้องขอจาก ศปนม.
1.3 มอบหมายให้ ศปนม. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดทำข้อเสนอการจัดทำโครงข่ายการประสานการปฏิบัติงานของ ศปนม. ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบการะทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติต่อไป
2. ให้กรมทะเบียนการค้า กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ร่วมกันตรวจสอบปรับปรุงข้อมูลการส่งออกน้ำมันให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2543--