เรื่อง ร่างกฎกระทรวงการสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย การยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย การยุบเลิกวัดการขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดให้จัดทำระเบียบวัด ตามแบบที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนด โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยข้อมูลวัดเกี่ยวกับการได้รับอนุญาตให้สร้างวัด การตั้งวัด เป็นต้น
2. กำหนดหลักเกณฑ์ในการสร้างวัดและตั้งวัดต้องมีที่ดินที่ใช้เป็นสถานที่สร้างวัดไม่น้อยกว่าหกไร่ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในท้องถิ่นไม่น้อยกว่าหนึ่งพันคน ตั้งอยู่ห่างจากวัดอื่นไม่น้อยกว่าสองกิโลเมตร และให้ยื่นขออนุญาตต่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดในจังหวัดที่จะสร้างวัดพร้อมเอกสารที่กำหนด
3. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการรวมวัดเพื่อประโยชน์ในการทำนุบำรุงศาสนาให้เจริญยิ่งขึ้นหรือประโยชน์ในการปกครองคณะสงฆ์
4. กำหนดให้วัดที่มีความจำเป็นต้องย้ายไปตั้งที่อื่นเพราะสถานที่ตั้งเดิมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์และประกอบศาสนกิจ ให้เจ้าอาวาสของวัดนั้นรายงานการขอย้ายพร้อมเหตุผลความจำเป็นไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด
5. วัดใดที่มีสภาพเสื่อมโทรมหรือมีเหตุอย่างอื่นอันไม่สมควรจะเป็นวัดให้เจ้าอาวาสรายงานพร้อมเหตุผลที่ต้องยุบเลิกและแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด และที่ดินที่ตั้งวัดให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติส่งคืนแก่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่ออกหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดิน
6. กำหนดให้วัดที่จะขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมาต้องมีพระภิกษุพำนักอยู่ประจำไม่น้อยกว่าห้ารูปเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี โดยให้รายงานการขอรับพระราชทานไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด
7. กำหนดให้การยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาต้องเป็นวัดที่ได้รับบูรณปฏิสังขรณ์จนมีเสนาสนะเป็นหลักฐานมั่นคงพร้อมที่จะเป็นที่พำนักและประกอบศาสนกิจ ประชาชนในท้องถิ่นสามารถทำนุบำรุงส่งเสริมให้วัดเจริญได้ ตั้งอยู่ห่างจากวัดอื่นไม่น้อยกว่าสองกิโลเมตร มีภิกษุมาพำนักและจำพรรษาไม่น้อยกว่าสี่รูป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559--