ทำเนียบรัฐบาล--16 ม.ค.--นิวส์สแตนด์
ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบการจัดเก็บภาษี และความมั่นคงให้ครูในโรงเรียนเอกชนให้เท่าเทียมกับสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นกรณีที่สอดคล้องกับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประกอบกับการยกเว้นภาษีตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ จะมีผลกระทบต่อรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพียงเล็กน้อย โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เมื่อครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนออกจากงานเพราะเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด โดยให้มีผลใช้บังคับย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2543 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ให้รับไปพิจารณาด้วยคือ ตามร่างข้อ 1 ที่กำหนดให้เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เมื่อครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนออกจากงานเพราะเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ซึ่งเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวน่าจะเกินกฎหมายแม่บทตามข้อกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจอธิบดีกรมสรรพากรดำเนินการดังกล่าวได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 16 ม.ค. 2544--
-สส-
ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบการจัดเก็บภาษี และความมั่นคงให้ครูในโรงเรียนเอกชนให้เท่าเทียมกับสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นกรณีที่สอดคล้องกับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประกอบกับการยกเว้นภาษีตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ จะมีผลกระทบต่อรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพียงเล็กน้อย โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เมื่อครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนออกจากงานเพราะเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด โดยให้มีผลใช้บังคับย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2543 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ให้รับไปพิจารณาด้วยคือ ตามร่างข้อ 1 ที่กำหนดให้เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เมื่อครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนออกจากงานเพราะเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ซึ่งเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวน่าจะเกินกฎหมายแม่บทตามข้อกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจอธิบดีกรมสรรพากรดำเนินการดังกล่าวได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 16 ม.ค. 2544--
-สส-