คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างแก้ไขความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย - ลาว - เวียดนาม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย - ลาว - เวียดนาม ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแก้ไขความตกลงฯ ที่มิใช่สาระสำคัญก่อนลงนามและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ก็ให้กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการได้ โดยประสานงานกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมอบหมายเป็นเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และอนุมัติให้ดำเนินการให้สัตยาบันร่างแก้ไขความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย - ลาว - เวียดนาม
ทั้งนี้ ร่างแก้ไขความตกลงฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ภาคีคู่สัญญาตกลงให้การลงนาม การให้สัตยาบันหรือการยอมรับและการมีผลบังคับใช้ของความตกลงฯ อาจกระทำก่อนและเป็นอิสระจากการลงนาม การให้สัตยาบันหรือการยอมรับ และการมีผลบังคับใช้ของภาคผนวกและพิธีสาร เพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้โดยไม่ต้องรอให้จัดทำพิธีสารและภาคผนวกเสร็จก่อน
2. ภาคีคู่สัญญาตกลงเปิดให้ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่เหลือสามารถเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงฯ ได้
3. เมื่อประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้เข้าเป็นภาคีความตกลงฯ ให้แก้ไขชื่อความตกลงฯ เพื่อให้รวมชื่อของประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงฯ ในภายหลังโดยอัตโนมัติ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 พ.ย. 44--
-สส-
1. ให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย - ลาว - เวียดนาม ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแก้ไขความตกลงฯ ที่มิใช่สาระสำคัญก่อนลงนามและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ก็ให้กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการได้ โดยประสานงานกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมอบหมายเป็นเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และอนุมัติให้ดำเนินการให้สัตยาบันร่างแก้ไขความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย - ลาว - เวียดนาม
ทั้งนี้ ร่างแก้ไขความตกลงฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ภาคีคู่สัญญาตกลงให้การลงนาม การให้สัตยาบันหรือการยอมรับและการมีผลบังคับใช้ของความตกลงฯ อาจกระทำก่อนและเป็นอิสระจากการลงนาม การให้สัตยาบันหรือการยอมรับ และการมีผลบังคับใช้ของภาคผนวกและพิธีสาร เพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้โดยไม่ต้องรอให้จัดทำพิธีสารและภาคผนวกเสร็จก่อน
2. ภาคีคู่สัญญาตกลงเปิดให้ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่เหลือสามารถเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงฯ ได้
3. เมื่อประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้เข้าเป็นภาคีความตกลงฯ ให้แก้ไขชื่อความตกลงฯ เพื่อให้รวมชื่อของประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงฯ ในภายหลังโดยอัตโนมัติ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 พ.ย. 44--
-สส-