คณะรัฐมนตรีรับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอเรื่อง การดำเนินการอพยพและการก่อสร้างบ้านเรือน รวมทั้งสาธารณูปโภคต่างๆ โดยมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป และให้การเคหะแห่งชาติรับข้อสังเกตไปพิจารณาด้วยว่า ควรออกแบบบ้านและชุมชนให้รองรับปัญหาภัยธรรมชาติด้วย เช่น ภัยแล้ง เป็นต้น นอกจากนั้นอาจประสานงานให้หน่วยงานทางทหารเข้ามาดำเนินการก่อสร้างและการอพยพด้วย รวมทั้งพิจารณาให้ราษฎรที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วยจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รายงานว่าได้ประชุมหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เช่น ผู้แทนกระทรวงพลังงาน ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้, สปก.) ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ผู้แทนกรมธนารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอำเภอแม่เมาะ ฯลฯ เพื่อติดตามและรายงานความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าว ณ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2548 ดังนี้
1. ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตชี้แจงว่า ปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการทำเหมืองลิกไนต์ และโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าแม่เมาะด้วยความระมัดระวัง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากฝุ่น กลิ่น และการสั่นสะเทือน ฯลฯ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
2. ที่ผ่านมามีปัญหาความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนครอบครัวราษฎรที่ประสงค์จะอพยพไปอยู่ในที่ดินที่จะจัดสรรให้ และการจัดหาพื้นที่ที่จะรองรับการอพยพ รวมทั้งความประสงค์ของราษฎรที่จะอพยพเกี่ยวกับทำเลที่ตั้งชุมชน แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้ข้อยุติที่ชัดเจนที่จะดำเนินการต่อไปได้แล้ว คือ
2.1 ราษฎรที่ประสงค์จะอพยพย้ายถิ่นที่อยู่มีจำนวนประมาณ 495-500 ครอบครัว
2.2 พื้นที่ที่ราษฎรประสงค์จะอพยพไปเป็นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต อยู่ในเขตท้องที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เนื้อที่ทั้งแปลงประมาณ 950 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ราษฎรแสดงเจตนาเลือกไว้แล้ว ซึ่งสามารถดำเนินการให้ราษฎรมีสิทธิครอบครองในที่ดินได้
3. การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการออกแบบบ้านที่จะก่อสร้างให้แก่ราษฎร โดยราษฎรเป็นผู้เลือกแบบบ้านเอง พร้อมทั้งได้ขอให้ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และสิ่งก่อสร้างที่จำเป็นแก่ชุมชนด้วย เช่น ถนน ตลาด อาคารพาณิชย์ สถานที่ราชการที่เหมาะสม ฯลฯ เพื่อให้เป็นชุมชนที่สมบูรณ์แบบ รวมทั้งได้ขอปรับเกณฑ์การเป็นครอบครัวขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จทั้งโครงการภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปี โดยจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการ และวางศิลาฤกษ์ได้ทันที
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--
รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รายงานว่าได้ประชุมหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เช่น ผู้แทนกระทรวงพลังงาน ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้, สปก.) ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ผู้แทนกรมธนารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอำเภอแม่เมาะ ฯลฯ เพื่อติดตามและรายงานความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าว ณ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2548 ดังนี้
1. ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตชี้แจงว่า ปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการทำเหมืองลิกไนต์ และโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าแม่เมาะด้วยความระมัดระวัง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากฝุ่น กลิ่น และการสั่นสะเทือน ฯลฯ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
2. ที่ผ่านมามีปัญหาความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนครอบครัวราษฎรที่ประสงค์จะอพยพไปอยู่ในที่ดินที่จะจัดสรรให้ และการจัดหาพื้นที่ที่จะรองรับการอพยพ รวมทั้งความประสงค์ของราษฎรที่จะอพยพเกี่ยวกับทำเลที่ตั้งชุมชน แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้ข้อยุติที่ชัดเจนที่จะดำเนินการต่อไปได้แล้ว คือ
2.1 ราษฎรที่ประสงค์จะอพยพย้ายถิ่นที่อยู่มีจำนวนประมาณ 495-500 ครอบครัว
2.2 พื้นที่ที่ราษฎรประสงค์จะอพยพไปเป็นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต อยู่ในเขตท้องที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เนื้อที่ทั้งแปลงประมาณ 950 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ราษฎรแสดงเจตนาเลือกไว้แล้ว ซึ่งสามารถดำเนินการให้ราษฎรมีสิทธิครอบครองในที่ดินได้
3. การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการออกแบบบ้านที่จะก่อสร้างให้แก่ราษฎร โดยราษฎรเป็นผู้เลือกแบบบ้านเอง พร้อมทั้งได้ขอให้ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และสิ่งก่อสร้างที่จำเป็นแก่ชุมชนด้วย เช่น ถนน ตลาด อาคารพาณิชย์ สถานที่ราชการที่เหมาะสม ฯลฯ เพื่อให้เป็นชุมชนที่สมบูรณ์แบบ รวมทั้งได้ขอปรับเกณฑ์การเป็นครอบครัวขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จทั้งโครงการภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปี โดยจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการ และวางศิลาฤกษ์ได้ทันที
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--