คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกเทคโนเนทเอเซีย (Technonet Asia) ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2545 เป็นต้นไป เนื่องจากปัจจุบันบทบาทและภารกิจในการดำเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมของเทคโนเนทเอเซียลดลง ในขณะที่การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมด้านนี้ของไทย รัฐได้ดำเนินการโดยใช้กลไกและความร่วมมือภายในประเทศอยู่แล้วอย่างเต็มที่ การเป็นสมาชิกขององค์กรดังกล่าวอาจไม่คุ้มค่าและเป็นประโยชน์เท่าที่ควร
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอตามที่ได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เข้าเป็นสมาชิกของเทคโนเนทเอเซียมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา กรมส่งเสริม-อุตสาหกรรมต้องจ่ายค่าสมาชิกปีละ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 52,023 บาท แต่เมื่อประเทศไทยประสบภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจในปี 2541 ทำให้ค่าเงินบาทตกลงไป ค่าสมาชิกดังกล่าวเมื่อคิดเป็นเงินบาทจึงเพิ่มขึ้นปีละ 82,203 บาท และปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นประมาณปีละ 92,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 46 บาท)
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤติทางเศรษฐกิจเท่าที่ควร ประกอบกับกิจกรรมของเทคโนเนทเอเซียได้เริ่มลดลงตามลำดับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2542 เนื่องจากเทคโนเนทเอเซียไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากแหล่งทุนและสมาชิกเริ่มถอนตัว ในส่วนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมก็ไม่มีกิจกรรมในการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมร่วมกับเทคโนเนทเอเซียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเห็นควรให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของเทคโนเนทเอเซียตั้งแต่ปีงบประมาณ 2545
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 ส.ค.44--
-สส-
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอตามที่ได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เข้าเป็นสมาชิกของเทคโนเนทเอเซียมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา กรมส่งเสริม-อุตสาหกรรมต้องจ่ายค่าสมาชิกปีละ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 52,023 บาท แต่เมื่อประเทศไทยประสบภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจในปี 2541 ทำให้ค่าเงินบาทตกลงไป ค่าสมาชิกดังกล่าวเมื่อคิดเป็นเงินบาทจึงเพิ่มขึ้นปีละ 82,203 บาท และปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นประมาณปีละ 92,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 46 บาท)
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤติทางเศรษฐกิจเท่าที่ควร ประกอบกับกิจกรรมของเทคโนเนทเอเซียได้เริ่มลดลงตามลำดับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2542 เนื่องจากเทคโนเนทเอเซียไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากแหล่งทุนและสมาชิกเริ่มถอนตัว ในส่วนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมก็ไม่มีกิจกรรมในการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมร่วมกับเทคโนเนทเอเซียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเห็นควรให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของเทคโนเนทเอเซียตั้งแต่ปีงบประมาณ 2545
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 7 ส.ค.44--
-สส-