คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงาน สรุปผลการประชุมหารือเรื่อง หลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้าง เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับใช้ในการตรวจสอบราคาของการจ้างก่อสร้างได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม รวมทั้งเรื่อง หลักเกณฑ์ในการพิจารณาราคาของผู้รับจ้าง จะต้องมีความโปร่งใส และมีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจน ไม่สมควรให้เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่คณะกรรมการ ผู้มีอำนาจสั่งการ รวมตลอดถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะจะเป็นช่องทางให้เกิดการเลือกปฏิบัติได้ และเรื่อง ปัญหาในการทุ่มตลาด ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้คณะกรรมการควบคุมราคากลางพิจารณาเร่งรัดการกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างใหม่ให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีประกาศใช้ให้ทันการดำเนินการจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 (วันที่ 1 ตุลาคม 2544)
ทั้งนี้ โดยให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางให้เป็นไปตามมาตรฐานและหลักวิชาการเป็นสำคัญ
2. สำหรับการดำเนินการจ้างก่อสร้างในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545 ให้คณะกรรมการควบคุมราคากลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบศึกษาและพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาราคา และการต่อรองราคาสำหรับการสอบราคาและการประกวดราคาจ้างก่อสร้างให้ชัดเจนว่า กรณีที่ผู้เสนอราคาได้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง ควรจะรับราคาได้โดยไม่ต้องมีการต่อรองราคาอีก แต่ถ้าเสนอราคาสูงกว่าราคากลางเท่าใด จึงจะให้มีการต่อรองราคาได้ เว้นแต่การต่อรองราคา ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 43 และข้อ 50 (2) วรรคสุดท้ายส่วนกรณีที่มีการตรวจสอบพบว่า ราคากลางที่ได้ประกาศไว้มีการคำนวณไม่ถูกต้อง และจะมีผลกระทบต่อหลักการพิจารณาราคา และการต่อรองราคาดังกล่าวข้างต้น โดยปกติควรจะต้องมีการยกเลิกการสอบราคาหรือประกวดราคา แล้วดำเนินการจัดจ้างใหม่นอกจากนั้น ให้มีการศึกษาและพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณา กรณีที่มีผู้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเกินปกติอย่างไร ที่จะถือว่ามีลักษณะเป็นการทุ่มตลาด (DUMPING) หรือเป็นราคาต่ำมากจนเห็นได้ชัดว่า ไม่เป็นไปตามลักษณะงาน ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้จริง เพื่อเป็นแนวทางแก่หน่วยงานผู้ปฏิบัติในการพิจารณาไม่รับราคาดังกล่าว เพื่อป้องกันความเสียหายแก่งานจ้างที่จะไม่แล้วเสร็จตามแผนงานโครงการ และปัญหาผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ ให้พิจารณากำหนดเป็นหลักเกณฑ์เพื่อประกาศใช้ในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป สำหรับหลักเกณฑ์ในส่วนที่จำเป็นจะต้องมีการศึกษาในรายละเอียดให้สมบูณ์ครบถ้วน เพื่อความรอบคอบก่อนดำเนินการ ก็ให้มีการจ้างสถาบันศึกษาหรือองค์การของรัฐดำเนินการศึกษาเพื่อให้มีข้อยุติโดยเร็วต่อไปด้วย
3. สำหรับการดำเนินการจ้างก่อสร้างในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2544 ยังคงให้ถือปฏิบัติตามมาตรการปรับลดราคากลาง ร้อยละ 10 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2543 ต่อไป โดยที่ประชุมมีข้อพิจารณาเพิ่มเติมด้วยว่า ในกรณีที่ผลการสอบราคาหรือประกวดราคาจ้างมีผู้เสนอราคาต่ำกว่าร้อยละ 10 ของราคากลางตามมาตรการนี้แล้ว ไม่ให้มีการต่อรองราคาผู้เสนอราคาดังกล่าวอีก เพื่อมิให้เกิดความล่าช้า หรือเป็นการเลือกปฏิบัติ เว้นแต่การต่อรองราคาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 43 และข้อ 50 (2) วรรคสุดท้าย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 ส.ค.44--
-สส-
1. ให้คณะกรรมการควบคุมราคากลางพิจารณาเร่งรัดการกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างใหม่ให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีประกาศใช้ให้ทันการดำเนินการจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 (วันที่ 1 ตุลาคม 2544)
ทั้งนี้ โดยให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางให้เป็นไปตามมาตรฐานและหลักวิชาการเป็นสำคัญ
2. สำหรับการดำเนินการจ้างก่อสร้างในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545 ให้คณะกรรมการควบคุมราคากลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบศึกษาและพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาราคา และการต่อรองราคาสำหรับการสอบราคาและการประกวดราคาจ้างก่อสร้างให้ชัดเจนว่า กรณีที่ผู้เสนอราคาได้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง ควรจะรับราคาได้โดยไม่ต้องมีการต่อรองราคาอีก แต่ถ้าเสนอราคาสูงกว่าราคากลางเท่าใด จึงจะให้มีการต่อรองราคาได้ เว้นแต่การต่อรองราคา ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 43 และข้อ 50 (2) วรรคสุดท้ายส่วนกรณีที่มีการตรวจสอบพบว่า ราคากลางที่ได้ประกาศไว้มีการคำนวณไม่ถูกต้อง และจะมีผลกระทบต่อหลักการพิจารณาราคา และการต่อรองราคาดังกล่าวข้างต้น โดยปกติควรจะต้องมีการยกเลิกการสอบราคาหรือประกวดราคา แล้วดำเนินการจัดจ้างใหม่นอกจากนั้น ให้มีการศึกษาและพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณา กรณีที่มีผู้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเกินปกติอย่างไร ที่จะถือว่ามีลักษณะเป็นการทุ่มตลาด (DUMPING) หรือเป็นราคาต่ำมากจนเห็นได้ชัดว่า ไม่เป็นไปตามลักษณะงาน ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้จริง เพื่อเป็นแนวทางแก่หน่วยงานผู้ปฏิบัติในการพิจารณาไม่รับราคาดังกล่าว เพื่อป้องกันความเสียหายแก่งานจ้างที่จะไม่แล้วเสร็จตามแผนงานโครงการ และปัญหาผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ ให้พิจารณากำหนดเป็นหลักเกณฑ์เพื่อประกาศใช้ในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป สำหรับหลักเกณฑ์ในส่วนที่จำเป็นจะต้องมีการศึกษาในรายละเอียดให้สมบูณ์ครบถ้วน เพื่อความรอบคอบก่อนดำเนินการ ก็ให้มีการจ้างสถาบันศึกษาหรือองค์การของรัฐดำเนินการศึกษาเพื่อให้มีข้อยุติโดยเร็วต่อไปด้วย
3. สำหรับการดำเนินการจ้างก่อสร้างในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2544 ยังคงให้ถือปฏิบัติตามมาตรการปรับลดราคากลาง ร้อยละ 10 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2543 ต่อไป โดยที่ประชุมมีข้อพิจารณาเพิ่มเติมด้วยว่า ในกรณีที่ผลการสอบราคาหรือประกวดราคาจ้างมีผู้เสนอราคาต่ำกว่าร้อยละ 10 ของราคากลางตามมาตรการนี้แล้ว ไม่ให้มีการต่อรองราคาผู้เสนอราคาดังกล่าวอีก เพื่อมิให้เกิดความล่าช้า หรือเป็นการเลือกปฏิบัติ เว้นแต่การต่อรองราคาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 43 และข้อ 50 (2) วรรคสุดท้าย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 ส.ค.44--
-สส-