ทำเนียบรัฐบาล--15 ก.พ.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. แผนและมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง
1.1 ให้คลังน้ำมันเชื้อเพลิงเสนอมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งกรมโยธาธิการภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2542 สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร และส่วนในต่างจังหวัดให้เสนอจังหวัด ภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2542เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบประกอบการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตประจำปี
1.2 ให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือกันในการรักษาความปลอดภัยในคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดหาโฟมที่เป็นกองกลาง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและเกิดความมั่นใจ
1.3 ให้ผู้ประกอบการไปตรวจสอบคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงของตนว่าสามารถปรับปรุงสิ่งใดที่บกพร่องได้บ้าง เช่นอุปกรณ์ ระบบการกำกับดูแล และบุคลากร เป็นต้น
1.4 ให้ผู้ประกอบการเสนอแนวความคิดเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วน ปรับปรุงแผนฉุกเฉิน ซึ่งผู้บริหารจะต้องคอยตรวจสอบดูแล และพยายามปรับปรุงให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ซึ่งควรจะมีการรวมกลุ่มกัน โดยกรมโยธาธิการจะเป็นศูนย์กลาง และให้คำแนะนำทางด้านกฎหมาย และเทคนิควิชาการความปลอดภัย
1.5 ในกรณีที่ตรวจพบว่า คลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงของภาครัฐหรือภาคเอกชนมีลักษณะไม่ปลอดภัย ทางภาครัฐมีนโยบายเพิกถอนใบอนุญาต และจะมีการตรวจสอบโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
1.6 ผู้ประกอบการจะต้องจัดเตรียมแผน เพื่อตรวจสอบว่ามีระบบความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ตลอดจนบุคลากรในสถานประกอบการต้องตรวจสอบประวัติให้ละเอียด
2. แผนงานและแนวทางการรักษาความปลอดภัย จากคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงในแหล่งชุมชน
2.1 บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ย้ายคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงไปส่วนหนึ่งแล้ว ยังคงเหลือถังน้ำมันหล่อลื่นซึ่งไม่มีอันตราย บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้ลดปริมาณการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหลือน้อยลง บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด มีแผนการโยกย้ายคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว และสำหรับคลังน้ำมันรายอื่นได้ขอให้เสนอมาตรการระยะสั้น เช่น การลดการเก็บน้ำมันชนิดน่ากลัวอันตราย และแผนระยะยาวในการพิจารณาย้ายคลัง โดยพิจารณาจากจุดคุ้มทุน โดยการกำหนดเป็นระยะเวลาในการย้ายเสนอให้กรมโยธาธิการพิจารณา
2.2 แผนและแนวทางในการรักษาความปลอดภัยบริเวณที่อยู่ใกล้ชุมชนให้พิจารณาในเรื่องคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวด้วย
2.3 กรมโยธาธิการมีบุคลากรซึ่งเป็นวิศวกรทางด้านเครื่องกลเป็นจำนวนมาก พร้อมที่จะให้การสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่ หากผู้ประกอบการมีปัญหา เช่น ไม่ได้รับความสะดวกหรือเรื่องล่าช้า หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแสวงหาประโยชน์ ขอให้แจ้งกรมโยธาธิการทราบทันที
2.4 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายพินิจ จารุสมบัติ) ได้แจ้งให้ผู้ค้าน้ำมันทราบว่า มีแผนจะไปตรวจคลังน้ำมันบางจาก กรุงเทพฯ คลังน้ำมันเอ็มพี ปิโตรเลียม จังหวัดสมุทรปราการ และคลังน้ำมันไทยออยส์ จังหวัดชลบุรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2543--
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. แผนและมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง
1.1 ให้คลังน้ำมันเชื้อเพลิงเสนอมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งกรมโยธาธิการภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2542 สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร และส่วนในต่างจังหวัดให้เสนอจังหวัด ภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2542เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบประกอบการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตประจำปี
1.2 ให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือกันในการรักษาความปลอดภัยในคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดหาโฟมที่เป็นกองกลาง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและเกิดความมั่นใจ
1.3 ให้ผู้ประกอบการไปตรวจสอบคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงของตนว่าสามารถปรับปรุงสิ่งใดที่บกพร่องได้บ้าง เช่นอุปกรณ์ ระบบการกำกับดูแล และบุคลากร เป็นต้น
1.4 ให้ผู้ประกอบการเสนอแนวความคิดเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วน ปรับปรุงแผนฉุกเฉิน ซึ่งผู้บริหารจะต้องคอยตรวจสอบดูแล และพยายามปรับปรุงให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ซึ่งควรจะมีการรวมกลุ่มกัน โดยกรมโยธาธิการจะเป็นศูนย์กลาง และให้คำแนะนำทางด้านกฎหมาย และเทคนิควิชาการความปลอดภัย
1.5 ในกรณีที่ตรวจพบว่า คลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงของภาครัฐหรือภาคเอกชนมีลักษณะไม่ปลอดภัย ทางภาครัฐมีนโยบายเพิกถอนใบอนุญาต และจะมีการตรวจสอบโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
1.6 ผู้ประกอบการจะต้องจัดเตรียมแผน เพื่อตรวจสอบว่ามีระบบความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ตลอดจนบุคลากรในสถานประกอบการต้องตรวจสอบประวัติให้ละเอียด
2. แผนงานและแนวทางการรักษาความปลอดภัย จากคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงในแหล่งชุมชน
2.1 บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ย้ายคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงไปส่วนหนึ่งแล้ว ยังคงเหลือถังน้ำมันหล่อลื่นซึ่งไม่มีอันตราย บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้ลดปริมาณการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหลือน้อยลง บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด มีแผนการโยกย้ายคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว และสำหรับคลังน้ำมันรายอื่นได้ขอให้เสนอมาตรการระยะสั้น เช่น การลดการเก็บน้ำมันชนิดน่ากลัวอันตราย และแผนระยะยาวในการพิจารณาย้ายคลัง โดยพิจารณาจากจุดคุ้มทุน โดยการกำหนดเป็นระยะเวลาในการย้ายเสนอให้กรมโยธาธิการพิจารณา
2.2 แผนและแนวทางในการรักษาความปลอดภัยบริเวณที่อยู่ใกล้ชุมชนให้พิจารณาในเรื่องคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวด้วย
2.3 กรมโยธาธิการมีบุคลากรซึ่งเป็นวิศวกรทางด้านเครื่องกลเป็นจำนวนมาก พร้อมที่จะให้การสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่ หากผู้ประกอบการมีปัญหา เช่น ไม่ได้รับความสะดวกหรือเรื่องล่าช้า หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแสวงหาประโยชน์ ขอให้แจ้งกรมโยธาธิการทราบทันที
2.4 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายพินิจ จารุสมบัติ) ได้แจ้งให้ผู้ค้าน้ำมันทราบว่า มีแผนจะไปตรวจคลังน้ำมันบางจาก กรุงเทพฯ คลังน้ำมันเอ็มพี ปิโตรเลียม จังหวัดสมุทรปราการ และคลังน้ำมันไทยออยส์ จังหวัดชลบุรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2543--