คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มาตรการปรับปรุงภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าประเภทสุราและยาสูบ ดังนี้
1. เพิ่มภาษีสุราแช่ชนิดเบียร์จากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 53 เป็นร้อยละ 55
2. เพิ่มภาษีสุราแช่ชนิดไวน์องุ่น (Wine) และสปาร์กกลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น (Sparkling Wine) จากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 55 เป็นร้อยละ 60
3. เพิ่มภาษีสุราประเภทวิสกี้จากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 35 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 45 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 240 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
4. เพิ่มภาษีสุราประเภทบรั่นดีจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 25 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 30 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 190 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
5. เพิ่มภาษีสุราพิเศษประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากวิสกี้และบรั่นดีจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 35 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 45 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ240 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
6. เพิ่มภาษีสุราผสมและสุราปรุงพิเศษจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 35 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 45 หรืออัตราตามปริมาณ ลิตรละ 240 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
7. ปรับค่าแสตมป์ยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 71.5 เป็นร้อยละ 75
ทั้งนี้ มาตรการตามข้อ 1 - 6 จะต้องออกกฎกระทรวง โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 เพื่อกำหนดอัตราภาษีสุราที่ใช้ในการจัดเก็บ
มาตรการตามข้อ 7 จะต้องออกกฎกระทรวงโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 เพื่อกำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบที่ใช้ในการจัดเก็บ
มาตรการดังกล่าวจะมีผล ดังนี้
1. รัฐจะมีรายได้จากการใช้มาตรการปรับปรุงภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น ปีละประมาณ 7,479 ล้านบาท
2. เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าที่บริโภคแล้วก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและศีลธรรมอันดี
3. ช่วยแก้ไขบรรเทาการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดให้ดีขึ้น
4. ช่วยเสริมสร้างความมีวินัยทางการคลังให้แก่รัฐบาลอันจะนำมาซึ่งมีความเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 27 มี.ค.2544
-สส-
1. เพิ่มภาษีสุราแช่ชนิดเบียร์จากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 53 เป็นร้อยละ 55
2. เพิ่มภาษีสุราแช่ชนิดไวน์องุ่น (Wine) และสปาร์กกลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่น (Sparkling Wine) จากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 55 เป็นร้อยละ 60
3. เพิ่มภาษีสุราประเภทวิสกี้จากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 35 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 45 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 240 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
4. เพิ่มภาษีสุราประเภทบรั่นดีจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 25 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 30 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 190 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
5. เพิ่มภาษีสุราพิเศษประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากวิสกี้และบรั่นดีจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 35 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 45 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ240 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
6. เพิ่มภาษีสุราผสมและสุราปรุงพิเศษจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 35 หรืออัตราตามปริมาณลิตรละ 150 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นอัตราตามมูลค่าร้อยละ 45 หรืออัตราตามปริมาณ ลิตรละ 240 บาทแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
7. ปรับค่าแสตมป์ยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตจากอัตราตามมูลค่าร้อยละ 71.5 เป็นร้อยละ 75
ทั้งนี้ มาตรการตามข้อ 1 - 6 จะต้องออกกฎกระทรวง โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 เพื่อกำหนดอัตราภาษีสุราที่ใช้ในการจัดเก็บ
มาตรการตามข้อ 7 จะต้องออกกฎกระทรวงโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 เพื่อกำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบที่ใช้ในการจัดเก็บ
มาตรการดังกล่าวจะมีผล ดังนี้
1. รัฐจะมีรายได้จากการใช้มาตรการปรับปรุงภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น ปีละประมาณ 7,479 ล้านบาท
2. เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าที่บริโภคแล้วก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและศีลธรรมอันดี
3. ช่วยแก้ไขบรรเทาการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดให้ดีขึ้น
4. ช่วยเสริมสร้างความมีวินัยทางการคลังให้แก่รัฐบาลอันจะนำมาซึ่งมีความเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 27 มี.ค.2544
-สส-