ทำเนียบรัฐบาล--30 พ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 แก่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวน 19,920 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้ขอเข้ารับความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเหลือเพิ่มเงินทุนชั้นที่ 1 โดยธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จะขายหุ้นบุริมสิทธิ์ให้กับกระทรวงการคลัง จำนวน 19,920 ล้านบาท โดยที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จะต้องนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นบุริมสิทธิ์ดังกล่าวทั้งหมดไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลทันที ในการนี้ กระทรวงการคลังจะต้องออกพันธบัตรในจำนวนที่เท่ากัน พร้อมทั้งออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ที่กระทรวงการคลังได้ซื้อไว้ตามข้างต้นให้กับผู้ร่วมลงทุนสมทบด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินเสนอ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2543 และกระทรวงการคลังได้ออกจำหน่ายพันธบัตรเพื่อให้ความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 ในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2543 จำนวนทั้งสิ้น 19,920 ล้านบาท อายุพันธบัตร 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ 1 ปี เฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหม่ ณ วันสิ้นเดือนก่อนหน้าวันประชุมผู้ถือหุ้น (สิ้นเดือนมีนาคม 2543) เพื่อมีมติขายหุ้นบุริมสิทธิ์ให้แก่กระทรวงการคลังลบร้อยละ 1) ทั้งนี้ เมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้วจะยังคงมีวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีกจำนวน 230,173 ล้านบาท
อนึ่ง เรื่องนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กู้เงินตามโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าร่วมโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 โดยการออกพันธบัตร แล้วให้กระทรวงการคลังรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นคราว ๆ ไป ซึ่งเป็นการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ผ่านมา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 พฤษภาคม 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 แก่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวน 19,920 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้ขอเข้ารับความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเหลือเพิ่มเงินทุนชั้นที่ 1 โดยธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จะขายหุ้นบุริมสิทธิ์ให้กับกระทรวงการคลัง จำนวน 19,920 ล้านบาท โดยที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จะต้องนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นบุริมสิทธิ์ดังกล่าวทั้งหมดไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลทันที ในการนี้ กระทรวงการคลังจะต้องออกพันธบัตรในจำนวนที่เท่ากัน พร้อมทั้งออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ที่กระทรวงการคลังได้ซื้อไว้ตามข้างต้นให้กับผู้ร่วมลงทุนสมทบด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินเสนอ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2543 และกระทรวงการคลังได้ออกจำหน่ายพันธบัตรเพื่อให้ความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 ในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2543 จำนวนทั้งสิ้น 19,920 ล้านบาท อายุพันธบัตร 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ 1 ปี เฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหม่ ณ วันสิ้นเดือนก่อนหน้าวันประชุมผู้ถือหุ้น (สิ้นเดือนมีนาคม 2543) เพื่อมีมติขายหุ้นบุริมสิทธิ์ให้แก่กระทรวงการคลังลบร้อยละ 1) ทั้งนี้ เมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้วจะยังคงมีวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีกจำนวน 230,173 ล้านบาท
อนึ่ง เรื่องนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กู้เงินตามโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าร่วมโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 โดยการออกพันธบัตร แล้วให้กระทรวงการคลังรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นคราว ๆ ไป ซึ่งเป็นการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ผ่านมา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 พฤษภาคม 2543--
-สส-