ทำเนียบรัฐบาล--26 ธ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับน้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในเขตต่อเนื่อง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค) เสนอ ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ แล้วมีมติให้กรมสรรพากรดำเนินการ ดังนี้
1. ให้ดำเนินการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 81 (น) ในส่วนของการประกอบการจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง
2. กำหนดให้การจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง ไม่ถือเป็นมูลค่าของฐานภาษี โดยให้ถือเป็นค่าตอบแทนตามที่มีลักษณะและเงื่อนไขตามที่อธิบดีกำหนด โดยอนุมัติรัฐมนตรีตามประมวลรัษฎากรมาตรา 79 (4)
3. ให้กรมสรรพากรเร่งดำเนินการตามข้อ 1-2 เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุด เพื่อให้โครงการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง สามารถดำเนินการและจำหน่ายน้ำมันให้ชาวประมงได้ ภายในเดือนมกราคม 2544
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติรายงานว่า
1. สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543 ที่เห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ รับไปดำเนินการ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมทะเบียนการค้า กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมเจ้าท่า และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างประกาศกระทรวงฯ และประกาศกรมฯ ดังนี้
1.1 กรมศุลกากรได้ดำเนินการร่างประกาศฯ 2 ฉบับเรียบร้อยแล้ว คือ
1) ร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากร
2) ร่างประกาศกรมศุลกากรเรื่อง ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณาอนุญาตให้ขนถ่ายน้ำมันดีเซล
1.2 กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการร่างประกาศฯ 2 ฉบับเรียบร้อยแล้ว คือ
1) ร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..)
2) ร่างประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยกเว้นภาษีสำหรับน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ที่นำไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่อง
1.3 กรมทะเบียนการค้าได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงฯ และร่างประกาศกรมทะเบียนการค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือ
1) ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่อง กำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซลสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลหมุนเร็ว ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2543)
2) ร่างประกาศกรมทะเบียนการค้าเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเก็บ การขนส่ง การขอความเห็นชอบในข้อกำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซลสำหรับใช้กับเครื่องยนต์หมุนเร็วเพื่อการส่งออก
ทั้งนี้ กรมทะเบียนการค้าได้เสนอประกาศกระทรวงฯ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามเรียบร้อยแล้ว ส่วนประกาศกระทรวงการคลังจะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง จึงจะออกบังคับใช้ได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้ประสานงานให้กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตเร่งนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุดแล้ว
2. ปัญหา อุปสรรค ในส่วนของกรมสรรพากร มีดังนี้
2.1 การส่งน้ำมันออกไปจำหน่ายให้กับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง มิได้เป็นการส่งโดยตรงจากโรงกลั่น (ผู้ผลิต) ไปยังเขตต่อเนื่อง แต่จะมีการซื้อขายระหว่างโรงกลั่นกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 6 ในประเทศทอดหนึ่งก่อน และผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 6 จึงจำหน่ายต่อให้กับเรือขนส่งและจำหน่ายน้ำมันเพื่อไปจำหน่ายให้กับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะโรงกลั่นน้ำมันเห็นว่าไม่คุ้มค่าที่ต้องแยกถังเก็บน้ำมันดังกล่าว เนื่องจากมีคุณภาพไม่เหมือนกับน้ำมันสำหรับจำหน่ายในประเทศ ทำให้สูญเสียความคล่องตัวในการกลั่นน้ำมัน และยังต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่าการจำหน่ายตามปกติแล้ว ทำให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 6 ต้องรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มไว้จนกว่าจะขอคืนได้
2.2 การนำน้ำมันไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่อง อาจไม่เข้าข่ายเป็น "ส่งออก" ตามที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2481 มาตรา 77/1 (14) ซึ่งต้องเป็นการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อส่งไปต่างประเทศ แต่การส่งนำมันไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่องไม่สามารถระบุจุดหมายปลายทางที่ต่างประเทศได้ จึงอาจไม่สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้
2.3 แม้ขอคืนภาษีได้ แต่ระยะเวลาในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม อาจล่าช้าได้ถึง 90 วัน เพราะจุดส่งออกกระจายอยู่ตามคลังน้ำมันชายฝั่งทะเลในหลายจังหวัด และต้องรอการยืนยันความถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเกิดต้นทุนที่สูงขึ้นจากดอกเบี้ยของเงินที่จมอยู่ในภาษีที่ยังไม่ได้รับคืน ทำให้ราคน้ำมันที่จำหน่ายสูงกว่าราคาน้ำมันจากต่างประเทศที่มาแข่งขันการจำหน่ายในทะเล
3. ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา จึงเห็นควรทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543 เป็นดังนี้
3.1 เปลี่ยนจากการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มก่อน แล้วเร่งรัดการคืนภาษีโดยเร็วที่สุด ตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม เป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรมาตรา 81 (น) ในส่วนของการประกอบการจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง ซึ่งต้องดำเนินการโดยการออกพระราชกฤษฎีกา โดยในทางปฏิบัติน้ำมันส่วนนี้จะแยกออกได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีมาตรฐานคุณภาพและสีแตกต่างจากน้ำมันที่ผลิตสำหรับจำหน่ายในประเทศ
3.2 การที่โรงกลั่นเป็นกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้โรงกลั่นไม่มีสิทธินำภาษีซื้อของน้ำมันดิบและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปหักภาษีขายในส่วนของน้ำมันที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ซึ่งเป็นยอดขายส่วนใหญ่ของโรงกลั่น หากเป็นเช่นนี้โรงกลั่นก็จะไม่เข้าร่วมโครงการ หรือถ้าเข้าร่วมก็ต้องเอาภาษีซื้อเข้ามารวมอยู่ในราคาด้วย ทำให้น้ำมันที่จำหน่ายในเขตต่อเนื่องแพงกว่าน้ำมันที่นำมาจำหน่ายจากต่างประเทศ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ให้กับโรงกลั่นด้วย โดยต้องกำหนดให้การจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องไม่ถือเป็นมูลค่าของฐานภาษี โดยให้ถือเป็นค่าตอบแทนตามที่มีลักษณะและเงื่อนไขตามที่อธิบดีกำหนด โดยอนุมัติรัฐมนตรีตามมาตรา 79 (4)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับน้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในเขตต่อเนื่อง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค) เสนอ ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ แล้วมีมติให้กรมสรรพากรดำเนินการ ดังนี้
1. ให้ดำเนินการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 81 (น) ในส่วนของการประกอบการจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง
2. กำหนดให้การจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง ไม่ถือเป็นมูลค่าของฐานภาษี โดยให้ถือเป็นค่าตอบแทนตามที่มีลักษณะและเงื่อนไขตามที่อธิบดีกำหนด โดยอนุมัติรัฐมนตรีตามประมวลรัษฎากรมาตรา 79 (4)
3. ให้กรมสรรพากรเร่งดำเนินการตามข้อ 1-2 เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุด เพื่อให้โครงการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง สามารถดำเนินการและจำหน่ายน้ำมันให้ชาวประมงได้ ภายในเดือนมกราคม 2544
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติรายงานว่า
1. สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543 ที่เห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ รับไปดำเนินการ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมทะเบียนการค้า กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมเจ้าท่า และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างประกาศกระทรวงฯ และประกาศกรมฯ ดังนี้
1.1 กรมศุลกากรได้ดำเนินการร่างประกาศฯ 2 ฉบับเรียบร้อยแล้ว คือ
1) ร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากร
2) ร่างประกาศกรมศุลกากรเรื่อง ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณาอนุญาตให้ขนถ่ายน้ำมันดีเซล
1.2 กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการร่างประกาศฯ 2 ฉบับเรียบร้อยแล้ว คือ
1) ร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..)
2) ร่างประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยกเว้นภาษีสำหรับน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ที่นำไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่อง
1.3 กรมทะเบียนการค้าได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงฯ และร่างประกาศกรมทะเบียนการค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือ
1) ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่อง กำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซลสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลหมุนเร็ว ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2543)
2) ร่างประกาศกรมทะเบียนการค้าเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเก็บ การขนส่ง การขอความเห็นชอบในข้อกำหนดคุณภาพน้ำมันดีเซลสำหรับใช้กับเครื่องยนต์หมุนเร็วเพื่อการส่งออก
ทั้งนี้ กรมทะเบียนการค้าได้เสนอประกาศกระทรวงฯ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามเรียบร้อยแล้ว ส่วนประกาศกระทรวงการคลังจะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง จึงจะออกบังคับใช้ได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้ประสานงานให้กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตเร่งนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุดแล้ว
2. ปัญหา อุปสรรค ในส่วนของกรมสรรพากร มีดังนี้
2.1 การส่งน้ำมันออกไปจำหน่ายให้กับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง มิได้เป็นการส่งโดยตรงจากโรงกลั่น (ผู้ผลิต) ไปยังเขตต่อเนื่อง แต่จะมีการซื้อขายระหว่างโรงกลั่นกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 6 ในประเทศทอดหนึ่งก่อน และผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 6 จึงจำหน่ายต่อให้กับเรือขนส่งและจำหน่ายน้ำมันเพื่อไปจำหน่ายให้กับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะโรงกลั่นน้ำมันเห็นว่าไม่คุ้มค่าที่ต้องแยกถังเก็บน้ำมันดังกล่าว เนื่องจากมีคุณภาพไม่เหมือนกับน้ำมันสำหรับจำหน่ายในประเทศ ทำให้สูญเสียความคล่องตัวในการกลั่นน้ำมัน และยังต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่าการจำหน่ายตามปกติแล้ว ทำให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 6 ต้องรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มไว้จนกว่าจะขอคืนได้
2.2 การนำน้ำมันไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่อง อาจไม่เข้าข่ายเป็น "ส่งออก" ตามที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2481 มาตรา 77/1 (14) ซึ่งต้องเป็นการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อส่งไปต่างประเทศ แต่การส่งนำมันไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่องไม่สามารถระบุจุดหมายปลายทางที่ต่างประเทศได้ จึงอาจไม่สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้
2.3 แม้ขอคืนภาษีได้ แต่ระยะเวลาในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม อาจล่าช้าได้ถึง 90 วัน เพราะจุดส่งออกกระจายอยู่ตามคลังน้ำมันชายฝั่งทะเลในหลายจังหวัด และต้องรอการยืนยันความถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเกิดต้นทุนที่สูงขึ้นจากดอกเบี้ยของเงินที่จมอยู่ในภาษีที่ยังไม่ได้รับคืน ทำให้ราคน้ำมันที่จำหน่ายสูงกว่าราคาน้ำมันจากต่างประเทศที่มาแข่งขันการจำหน่ายในทะเล
3. ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา จึงเห็นควรทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543 เป็นดังนี้
3.1 เปลี่ยนจากการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มก่อน แล้วเร่งรัดการคืนภาษีโดยเร็วที่สุด ตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม เป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรมาตรา 81 (น) ในส่วนของการประกอบการจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่อง ซึ่งต้องดำเนินการโดยการออกพระราชกฤษฎีกา โดยในทางปฏิบัติน้ำมันส่วนนี้จะแยกออกได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีมาตรฐานคุณภาพและสีแตกต่างจากน้ำมันที่ผลิตสำหรับจำหน่ายในประเทศ
3.2 การที่โรงกลั่นเป็นกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้โรงกลั่นไม่มีสิทธินำภาษีซื้อของน้ำมันดิบและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปหักภาษีขายในส่วนของน้ำมันที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ซึ่งเป็นยอดขายส่วนใหญ่ของโรงกลั่น หากเป็นเช่นนี้โรงกลั่นก็จะไม่เข้าร่วมโครงการ หรือถ้าเข้าร่วมก็ต้องเอาภาษีซื้อเข้ามารวมอยู่ในราคาด้วย ทำให้น้ำมันที่จำหน่ายในเขตต่อเนื่องแพงกว่าน้ำมันที่นำมาจำหน่ายจากต่างประเทศ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ให้กับโรงกลั่นด้วย โดยต้องกำหนดให้การจำหน่ายน้ำมันสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องไม่ถือเป็นมูลค่าของฐานภาษี โดยให้ถือเป็นค่าตอบแทนตามที่มีลักษณะและเงื่อนไขตามที่อธิบดีกำหนด โดยอนุมัติรัฐมนตรีตามมาตรา 79 (4)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-