เรื่อง มาตรการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลกและร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..)
1. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) โดยมอบหมายให้ กค. เป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีท้ายประกาศกระทรวงการคลังดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. เห็นชอบมาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และ
2.1 มอบหมายให้ กค. เร่งรัดจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามมาตรการทางภาษีเกี่ยวกับการให้ผู้ประกอบการหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือนและค่าจ้างของแรงงานเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
2.2 มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์มหาชน) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาจัดทำและพัฒนามาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกอย่างกว้างขวาง รวมถึงกำหนดตราสัญลักษณ์กลางที่ใช้รับประกันคุณภาพ (Hallmarking) สำหรับสินค้าในหมวดเครื่องประดับ
2.3 มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน พิจารณากำหนดมาตรการเพื่อพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตจากผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อย การจัดตั้งโรงเรียนเฉพาะทางเพื่อส่งเสริมและพัฒนาช่างศิลป์ และการพัฒนาทายาทช่างฝีมือ เพื่ออนุรักษ์การผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย
2.4 มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามมาตรการทางการเงินในการขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสำหรับผู้ประกอบกิจการ SMEs ดังกล่าวต่อไป
3. มอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณา กำหนดมาตรการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยว ในย่านการค้าที่สำคัญ รวมถึงการประชาสัมพันธ์สินค้าที่มีคุณภาพให้แก่นักท่องเที่ยว
กค. รายงานว่า เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก ซึ่งจะช่วยดึงดูดและกระตุ้นให้มีการซื้อขายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยเพิ่มมากขึ้น และผลักดันอัญมณีและเครื่องประดับของไทยให้เป็นสินค้าที่มีศักยภาพ (Product Champion) ในหมู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเศรษฐกิจ โดยยังคงสนับสนุนให้มีการจ้างแรงงานฝีมือเพื่ออนุรักษ์การผลิตที่เป็นอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของไทย กค. จึงเห็นควรให้มีมาตรการในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
1. มาตรการสนับสุนนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก ยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในตอนที่ 71 ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 จำนวน 32 ประเภทย่อย โดยเห็นควรให้มีผลบังคับภายในวันที่ 20 มกราคม 2560 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าสินค้าได้ทันช่วงเทศกาลตรุษจีน
2. มาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ได้แก่
1) มาตรการทางภาษี โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือนและค่าจ้างของแรงงานที่เป็นช่างเครื่องประดับประเภทที่ผลิตด้วยมือ หรือผลิตด้วยมือร่วมกับการใช้งานเครื่องจักรที่ไม่ซับซ้อนหรือผลิตคนเดียวตลอดกระบวนการผลิต
2) มาตรการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดยจัดทำและพัฒนามาตราฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกอย่างกว้างขว้าง การกำหนดตราสัญลักษณ์กลางที่ใช้รับประกันคุณภาพ (Hallmarking) และการจัดประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับนานาชาติ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก
3) มาตรการยกระดับฝีมือแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตจากผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อย การจัดตั้งโรงเรียนเฉพาะทางเพื่อส่งเสริมและพัฒนาช่างศิลป์ และการพัฒนาทายาทช่างฝีมือเพื่ออนุรักษ์การผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย
4) มาตรการทางเงิน โดยการขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสำหรับผู้ประกอบกิจการ SMEs โดยให้ผู้ประกอบกิจการ SMEs ให้สามารถยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 หรือจนกว่าวงเงินที่กำหนดไว้จะถูกจัดสรรหมด แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และธนาคารออมสินเบิกรายจ่ายสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2560
3. มาตรการส่งเสริมด้านการตลาด เป็นการสนับสนุนให้มีการซื้อขายอัญมณีและเครื่องประดับไทยเพิ่มมากขึ้น โดยจัดให้มีการประชาสัมพันธ์สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่มีคุณภาพการประชาสัมพันธ์แหล่งการท่องเที่ยวในย่านการค้าที่สำคัญ รวมถึงการประชาสัมพันธ์สินค้าที่มีคุณภาพให้แก่นักท่องเที่ยวบนสื่อต่าง ๆ เช่น สื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในสายการบิน เป็นต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 มกราคม 2560--