คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 5 เดือนแรก (ม.ค. - พ.ค.) ของปี 2548
1. การส่งออกเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 9,123 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 การส่งออกยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2548 มีมูลค่า 42,562 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6
2. การนำเข้าเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 10,882 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.5 สินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้นมากได้แก่ เชื้อเพลิง ทุนและวัตถุดิบ โดยเฉพาะน้ำมันดิบนำเข้า เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 124.6 เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้น ทั้งทางด้านราคาร้อยละ 38.4 และปริมาณร้อยละ 62.3 ทำให้การนำเข้าในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2548 มีมูลค่า 48,834 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.5
สินค้าสำคัญที่นำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงและส่งผลทำให้ดุลการค้าขาดดุล ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็กกล้า ทองคำ เครื่องจักรและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และสินแร่และโลหะอื่น ๆ
3. ดุลการค้าเดือนพฤษภาคมขาดดุลมูลค่า 1,759 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า ทำให้ดุลการค้าในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2548 ขาดดุลมูลค่า 6,272 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4. ตลาดส่งออกสำคัญ ตลาดใหม่ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 16.0 อันเป็นผลจากการดำเนินมาตรการเชิงรุกในการเจาะตลาดใหม่ เช่น Trade Commando การส่งนักรบทางการตลาดไปขายสินค้า ตลาดที่ขยายตัวในอัตราสูงได้แก่อินเดีย (ร้อยละ 88.0) ลาตินอเมริกา ร้อยละ 36.8) แอฟริกา (ร้อยละ 35.7) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 31.4) ยุโรปตะวันออก (ร้อยละ 24.6) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 22.7) และ ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 18.6)
การส่งออกไปตลาดหลักก็มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 9.4 ตามการขยายตัวของการส่งออกไปญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องร้อยละ 15.3 และ 7.5 ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกไปสหภาพยุโรปและอาเซียนมีแนวโน้มชะลอตัวลงโดยขยายตัวร้อยละ 5.5 และ 9.7 ตามลำดับ
5. สินค้าส่งออกสำคัญ ส่วนใหญ่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว แป้งมันสำปะหลัง ปลากระป๋องและแปรรูป ผัก ผลไม้สด กระป๋องและแปรรูป ไก่แปรรูป ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ พลาสติก เหล็ก อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์
สินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลงได้แก่ มันเม็ดและมันเส้นลดลงร้อยละ 4.8 เนื่องจากผลผลิตในประเทศลดลงและต้องแข่งขันกับธัญพืชในสหภาพยุโรป แผงวงจรไฟฟ้าลดลงร้อยละ 10.0 ตามการชะลอตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการแข่งขันด้านราคากับเกาหลีใต้ ยางพาราลดลงร้อยละ 3.3 เนื่องจากจีนลดการนำเข้าตามนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจและการแข่งขันด้านราคากับอินโดนีเซียและมาเลเซีย ไก่สดแช่แข็งลดลงร้อยละ 96.2 จากปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--
1. การส่งออกเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 9,123 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 การส่งออกยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2548 มีมูลค่า 42,562 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6
2. การนำเข้าเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 10,882 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.5 สินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้นมากได้แก่ เชื้อเพลิง ทุนและวัตถุดิบ โดยเฉพาะน้ำมันดิบนำเข้า เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 124.6 เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้น ทั้งทางด้านราคาร้อยละ 38.4 และปริมาณร้อยละ 62.3 ทำให้การนำเข้าในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2548 มีมูลค่า 48,834 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.5
สินค้าสำคัญที่นำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงและส่งผลทำให้ดุลการค้าขาดดุล ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็กกล้า ทองคำ เครื่องจักรและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และสินแร่และโลหะอื่น ๆ
3. ดุลการค้าเดือนพฤษภาคมขาดดุลมูลค่า 1,759 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า ทำให้ดุลการค้าในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2548 ขาดดุลมูลค่า 6,272 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4. ตลาดส่งออกสำคัญ ตลาดใหม่ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 16.0 อันเป็นผลจากการดำเนินมาตรการเชิงรุกในการเจาะตลาดใหม่ เช่น Trade Commando การส่งนักรบทางการตลาดไปขายสินค้า ตลาดที่ขยายตัวในอัตราสูงได้แก่อินเดีย (ร้อยละ 88.0) ลาตินอเมริกา ร้อยละ 36.8) แอฟริกา (ร้อยละ 35.7) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 31.4) ยุโรปตะวันออก (ร้อยละ 24.6) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 22.7) และ ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 18.6)
การส่งออกไปตลาดหลักก็มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 9.4 ตามการขยายตัวของการส่งออกไปญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องร้อยละ 15.3 และ 7.5 ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกไปสหภาพยุโรปและอาเซียนมีแนวโน้มชะลอตัวลงโดยขยายตัวร้อยละ 5.5 และ 9.7 ตามลำดับ
5. สินค้าส่งออกสำคัญ ส่วนใหญ่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว แป้งมันสำปะหลัง ปลากระป๋องและแปรรูป ผัก ผลไม้สด กระป๋องและแปรรูป ไก่แปรรูป ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ พลาสติก เหล็ก อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์
สินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลงได้แก่ มันเม็ดและมันเส้นลดลงร้อยละ 4.8 เนื่องจากผลผลิตในประเทศลดลงและต้องแข่งขันกับธัญพืชในสหภาพยุโรป แผงวงจรไฟฟ้าลดลงร้อยละ 10.0 ตามการชะลอตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการแข่งขันด้านราคากับเกาหลีใต้ ยางพาราลดลงร้อยละ 3.3 เนื่องจากจีนลดการนำเข้าตามนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจและการแข่งขันด้านราคากับอินโดนีเซียและมาเลเซีย ไก่สดแช่แข็งลดลงร้อยละ 96.2 จากปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--