คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การวางทรัพย์) ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้นำไปรวมกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดตั้งบริษัท การควบรวมบริษัท การจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น) ที่อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาตามมติคณะรัฐมนตรี ( 24 พ.ค. 59) แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงาน
ยธ. รายงานว่า พระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558 มีหลักการให้ส่วนราชการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของกฎหมายทุกห้าปีที่กฎหมายใช้บังคับ กรมบังคับคดี ยธ. ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการวางทรัพย์ได้พิจารณาบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในส่วนที่เกี่ยวกับสถานที่วางทรัพย์แล้วปรากฏว่า ยังไม่เคยมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนับแต่ประกาศใช้ กอปรกับบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องการวางทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. 2551 ไม่ได้กำหนดให้มีสถานที่วางทรัพย์ อีกทั้งถ้อยคำตามกฎหมายที่กำหนดให้การวางทรัพย์กระทำ ณ สำนักงานวางทรัพย์ประจำตำบลนั้นก็ไม่ปรากฏว่าได้มีการจัดตั้ง สำนักงานวางทรัพย์ประจำตำบลแต่อย่างใด สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ในการวางทรัพย์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยมีหลักการสำคัญในการที่จะอำนวยความสะดวกและสร้างความชัดเจนแก่ประชาชนในการวางทรัพย์ ทั้งนี้ กรมบังคับคดีได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยเพิ่มวรรคสี่ ของมาตรา 333 กำหนดให้สำนักงานวางทรัพย์ประจำตำบลให้หมายความรวมถึงสำนักงานบังคับคดี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560--