มาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปี 2560 เพิ่มเติม

ข่าวการเมือง Tuesday February 7, 2017 18:24 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปี 2560 เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้

1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและโครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ปี 2559/60 โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมทั้งอนุมัติงบประมาณในการดำเนินมาตรการเป็นวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามภาระที่เกิดขึ้นจริงตามขั้นตอนต่อไป และให้ ธ.ก.ส. ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ (สงป.) ในรายละเอียดต่อไป

2. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน และโครงการสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของ SMEs ที่ประสบภัยน้ำท่วม ปี 2560 โดยธนาคารออมสิน

3. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสินเชื่อฟื้นฟู SMEs จากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2560 โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และอนุมัติงบประมาณในการดำเนินโครงการเป็นวงเงินไม่เกิน 825 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามภาระที่เกิดขึ้นจริงตามขั้นตอนต่อไปและให้ ธพว. และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำความตกลงกับ สงป. ในรายละเอียดต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

กค. รายงานว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจได้จัดทำมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปี 2560 เพิ่มเติม ในโครงการต่าง ๆ ดังนี้

1. ธ.ก.ส. มี 2 โครงการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

โครงการ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ปี 2559/60

กลุ่มเป้าหมาย - จำนวน 200,000 ราย / หมายเหตุ : เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. หรือลูกค้าใหม่ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย

วิธีดำเนินการ - ให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาทระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 3 ปี โดยใน 6 เดือนแรกคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 หลังจากนั้น คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ MRRต่อปี (ปัจจุบัน MRR ของ ธ.ก.ส. อยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปี)

ระยะเวลดำเนินการ - จ่ายสินเชื่อใน 3 เดือนนับถัดจากเดือนที่เกิดภัยพิบัติ

วงเงินสินเชื่อ - 10,000 ล้านบาท

การชดเชย(ภาระงบประมาณ) - ไม่ขอรับชดเชยภาระดอกเบี้ยและต้นทุนเงิน

โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ปี 2559/60

กลุ่มเป้าหมาย - จำนวน 50,000 ราย / หมายเหตุ : เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. หรือลูกค้าใหม่ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย

วิธีดำเนินการ - ให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 3 แสนบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 10 ปี โดยปีที่ 1 – 4 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR –2 ต่อปี โดยเรียกเก็บจากเกษตรกรในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกรในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี และตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย MRR

ระยะเวลดำเนินการ - ตั้งแต่กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560

วงเงินสินเชื่อ - 10,000 ล้านบาท

การชดเชย (ภาระงบประมาณ) - ขอรับการชดเชยจากรัฐบาลวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามภาระที่เกิดขึ้นจริงตามขั้นตอนต่อไป

หมายเหตุ : กำหนดให้การดำเนินงานตามโครงการทั้ง 2 โครงการเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (PSA) และสามารถนำส่วนต่างดอกเบี้ยที่ ธ.ก.ส. รับภาระแทนเกษตรไปปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจประจำปี

2. ธนาคารออมสิน มี 2 โครงการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

โครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน

กลุ่มเป้าหมาย - ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและภัยพิบัติต่าง ๆ

วิธีดำเนินการ - ให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 5 ปี โดยในปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อเดือน และในปีที่ 2 – 5 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน และหลักประกันสามารถใช้บุคคลค้ำประกันหรือค้ำประกันโดย บสย. ได้

ระยะเวลา ดำเนินการ - ยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560

วงเงินสินเชื่อ - วงเงิน 4,000 ล้านบาท

การชดเชย - ไม่ขอรับชดเชยภาระดอกเบี้ยและต้นทุนเงิน

โครงการสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)ที่ประสบภัยน้ำท่วมปี 2560

กลุ่มเป้าหมาย - เป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจเดิม โดยสินเชื่อระยะยาวลูกค้าต้องไม่มีหนี้ค้างชำระในวันที่ขอกู้เงิน ส่วนสินเชื่อระยะสั้นลูกค้าต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญากู้เงิน หรือเป็นผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ

วิธีดำเนินการ - ให้สินเชื่อร้อยละ 10 ของวงเงินกู้สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจเดิมทุกประเภท สูงสุดรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 5 ปี โดยในปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR – 2 ต่อปี และปีต่อไปคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR ต่อปี (ปัจจุบัน MLR ของธนาคารออมสินอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ต่อปี)

ระยะเวลา ดำเนินการ - ยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560 และอนุมัติพร้อมจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2560

วงเงินสินเชื่อ - วงเงิน 2,500 ล้านบาท

การชดเชย - ไม่ขอรับชดเชยภาระดอกเบี้ยและต้นทุนเงิน

หมายเหตุ : กำหนดให้การดำเนินงานตามโครงการเป็น PSA และไม่นับรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans: NPLs) ที่เกิดจากการดำเนินการดังกล่าว เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของธนาคาร รวมทั้งให้สามารถนำค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการบวกกลับกำไรสุทธิเพื่อการคำนวณโบนัสของพนักงานได้

3. ธพว. มี 1 โครงการ ได้แก่ โครงการสินเชื่อฟื้นฟู SMEs จากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2560 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

หัวข้อ/รายละเอียด

กลุ่มเป้าหมาย - ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยภาคใต้ ปี 2560 โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้เป็นไปตามที่ ธพว. ประกาศกำหนดเขตพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติหรือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 2560

วิธีดำเนินการ - ให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน7 ปี โดยในปีที่ 1 – 3 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ปีที่ 4 - 7 ให้เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ ธพว. กำหนด โดยขอรับการชดเชยจากรัฐบาลในอัตราร้อยละ 3 ต่อปีในช่วง 3 ปีแรก

ระยะเวลาดำเนินการ - 1 ปี ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน

หลักประกัน - ตามที่ ธพว. กำหนดหรือให้ บสย. ค้ำประกัน โดยมีเงื่อนไขดังนี้

1) วงเงินค้ำประกันรวม 5,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันต่อรายสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 7 ปี

2) ค่าธรรมเนียมค้ำประกันอัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี ของวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ ตลอดอายุการค้ำประกัน โดยในปีที่ 1 รัฐบาลเป็นผู้รับภาระชดเชยค่าธรรมเนียมแทน SMEs ในอัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี ของวงเงินค้ำประกัน

3) การจ่ายค่าประกันชดเชยของ บสย.ในแต่ละ Portfolio บสย. จะจ่ายค่าประกันชดเชยตามภาระค้ำประกัน SMEs ในระดับภาระค้ำประกันที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Guarantee: NPG) สูงสุดไม่เกินร้อยละ 18 ของภาระค้ำประกันเฉลี่ย ณ วันสิ้นอายุการค้ำประกัน

วงเงินสินเชื่อ - วงเงินสินเชื่อรวม 5,000 ล้านบาท

การชดเชย (ภาระงบประมาณ) - ขอรับการชดเชยจากรัฐบาลวงเงินไม่เกิน 825 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. ชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้แก่ ธพว. จำนวนไม่เกิน 450 ล้านบาท

2. ชดเชยค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้แก่ บสย.จำนวนไม่เกิน 87.50 ล้านบาท

3. ชดเชยการจ่ายค่าประกันชดเชยให้แก่ บสย. ในส่วนต่างระหว่างค่าประกันชดเชยกับค่าธรรมเนียมที่ได้รับ จำนวน 287.50 ล้านบาท

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ