ทำเนียบรัฐบาล--11 ม.ค.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษาหาแนวทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ให้เป็นไปอย่างมีระบบ ครบวงจร และต่อเนื่องในขั้นต่อไป ดังนี้
1. สำรวจและศึกษาวิเคราะห์แนวทางและมาตรการในการควบคุมอาชญากรรมและการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล จากแผนงาน โครงการของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม และจากการศึกษาวิจัยของบุคคลและองค์กรต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการดำเนินการขั้นต่อไป สรุปได้ดังนี้
1.1 แผนงานของหน่วยงานภาครัฐในการลดปริมาณคดีที่ขึ้นสู่ศาล มีจำนวน 10 แผนงาน 47 งาน/โครงการ
1.2 แนวทางการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล จากการศึกษาพบว่ามีวิธีการต่าง ๆ ที่สามารถช่วยหันเหคดี หรือลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล รวม 12 วิธี คือ 1) การปรับ 2) การสั่งฟ้องและการสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ 3) การชะลอการฟ้อง 4) การต่อรองคำรับสารภาพ (Plea Bargaining) 5) การคุมประพฤติ (Probation) 6) การดำเนินการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2534 เพื่อบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดที่ถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหา 7) ความผิดอันยอมความได้ 8) การพักการลงโทษ 9) การระงับข้อพิพาทโดยวิธีประนีประนีประนอมยอมความ 10) การระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ 11) การระงับข้อพิพาทโดยวิธีไกล่เกลี่ยหรือประนอมข้อพิพาท 12) วิธีการอื่น ๆ ส่วนใหญ่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ทำเป็นโครงการต่าง ๆ โดยการนำมวลชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม ผ่านทางกิจกรรม การอบรมเผยแพร่ให้ความรู้แก่ประชาชน
2. แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาหาแนวทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการ หรือผู้แทนของหน่วยงานภายในและภายนอกกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งนักวิชาการรวม 33 คน เป็นกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษา วิเคราะห์ เสนอแนะนโยบาย มาตรการแผนการดำเนินงานแนวทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 มกราคม 2543--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษาหาแนวทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ให้เป็นไปอย่างมีระบบ ครบวงจร และต่อเนื่องในขั้นต่อไป ดังนี้
1. สำรวจและศึกษาวิเคราะห์แนวทางและมาตรการในการควบคุมอาชญากรรมและการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล จากแผนงาน โครงการของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม และจากการศึกษาวิจัยของบุคคลและองค์กรต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการดำเนินการขั้นต่อไป สรุปได้ดังนี้
1.1 แผนงานของหน่วยงานภาครัฐในการลดปริมาณคดีที่ขึ้นสู่ศาล มีจำนวน 10 แผนงาน 47 งาน/โครงการ
1.2 แนวทางการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล จากการศึกษาพบว่ามีวิธีการต่าง ๆ ที่สามารถช่วยหันเหคดี หรือลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล รวม 12 วิธี คือ 1) การปรับ 2) การสั่งฟ้องและการสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ 3) การชะลอการฟ้อง 4) การต่อรองคำรับสารภาพ (Plea Bargaining) 5) การคุมประพฤติ (Probation) 6) การดำเนินการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2534 เพื่อบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดที่ถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหา 7) ความผิดอันยอมความได้ 8) การพักการลงโทษ 9) การระงับข้อพิพาทโดยวิธีประนีประนีประนอมยอมความ 10) การระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ 11) การระงับข้อพิพาทโดยวิธีไกล่เกลี่ยหรือประนอมข้อพิพาท 12) วิธีการอื่น ๆ ส่วนใหญ่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ทำเป็นโครงการต่าง ๆ โดยการนำมวลชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม ผ่านทางกิจกรรม การอบรมเผยแพร่ให้ความรู้แก่ประชาชน
2. แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาหาแนวทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการ หรือผู้แทนของหน่วยงานภายในและภายนอกกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งนักวิชาการรวม 33 คน เป็นกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษา วิเคราะห์ เสนอแนะนโยบาย มาตรการแผนการดำเนินงานแนวทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 มกราคม 2543--