ทำเนียบรัฐบาล--15 ก.พ.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งผลให้การแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพบรรลุผลสำเร็จได้โดยเร็ว ดังนี้
1.1 ให้ยกเว้นภาษีอากรต่างๆ บรรดาที่เกิดจากการโอนสินทรัพย์จากบริษัทบริหารสินทรัพย์กลับคืนไปยังสถาบันการเงิน ในกรณีที่สินทรัพย์ดังกล่าวได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติ หรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ทั้งนี้ ราคาของสินทรัพย์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้
1) สถาบันการเงินผู้รับโอนต้องถือหุ้นโดยตรงในบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง หรือ
2) กรณีที่มีนิติบุคคลอื่นถือหุ้นทั้งในสถาบันการเงินผู้รับโอนและบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงของสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ การยกเว้นภาษีอากรต่างๆ ดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
1.2 ให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดในกรณีสถาบันการเงินรับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์เหลือร้อยละ 0.01 เป็นพิเศษ เพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยสินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์ชั้นปกติ หรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ทั้งนี้ ราคาของสินทรัพย์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้
1) สถาบันการเงินผู้รับโอนต้องถือหุ้นโดยตรงในบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง หรือ
2) กรณีที่มีนิติบุคคลอื่นถือหุ้นในสถาบันการเงินผู้รับโอนและบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงของสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดดังกล่าว ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
2.1 ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์สำหรับการโอนทรัพย์สินคืนให้แก่สถาบันการเงิน ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
2.2 การยกเว้นภาษีอากรดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
3. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีสถาบันการเงินรับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ (ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497) และให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
3.1 ให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษเพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ ของประเทศเหลือร้อยละ 0.01 แก่สถาบันการเงินที่รับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ สำหรับการโอนสินทรัพย์ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติหรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
3.2 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
4. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวง เรื่อง การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีสถาบันการเงินรับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ (ออกตามความในพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ.2522) และให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
4.1 ให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองห้องชุดเป็นพิเศษ เพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศเหลือร้อยละ 0.01 แก่สถาบันการเงินที่รับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ สำหรับการโอนสินทรัพย์ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติหรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
4.2 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2543--
คณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งผลให้การแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพบรรลุผลสำเร็จได้โดยเร็ว ดังนี้
1.1 ให้ยกเว้นภาษีอากรต่างๆ บรรดาที่เกิดจากการโอนสินทรัพย์จากบริษัทบริหารสินทรัพย์กลับคืนไปยังสถาบันการเงิน ในกรณีที่สินทรัพย์ดังกล่าวได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติ หรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ทั้งนี้ ราคาของสินทรัพย์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้
1) สถาบันการเงินผู้รับโอนต้องถือหุ้นโดยตรงในบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง หรือ
2) กรณีที่มีนิติบุคคลอื่นถือหุ้นทั้งในสถาบันการเงินผู้รับโอนและบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงของสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ การยกเว้นภาษีอากรต่างๆ ดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
1.2 ให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดในกรณีสถาบันการเงินรับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์เหลือร้อยละ 0.01 เป็นพิเศษ เพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยสินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์ชั้นปกติ หรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ทั้งนี้ ราคาของสินทรัพย์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้
1) สถาบันการเงินผู้รับโอนต้องถือหุ้นโดยตรงในบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง หรือ
2) กรณีที่มีนิติบุคคลอื่นถือหุ้นในสถาบันการเงินผู้รับโอนและบริษัทบริหารสินทรัพย์มากกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงของสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดดังกล่าว ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
2.1 ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์สำหรับการโอนทรัพย์สินคืนให้แก่สถาบันการเงิน ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
2.2 การยกเว้นภาษีอากรดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
3. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีสถาบันการเงินรับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ (ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497) และให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
3.1 ให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษเพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ ของประเทศเหลือร้อยละ 0.01 แก่สถาบันการเงินที่รับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ สำหรับการโอนสินทรัพย์ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติหรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
3.2 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
4. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวง เรื่อง การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีสถาบันการเงินรับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ (ออกตามความในพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ.2522) และให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
4.1 ให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองห้องชุดเป็นพิเศษ เพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศเหลือร้อยละ 0.01 แก่สถาบันการเงินที่รับโอนสินทรัพย์กลับคืนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ สำหรับการโอนสินทรัพย์ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว และมีสภาพเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติหรือสินทรัพย์จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
4.2 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2545
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2543--