ทำเนียบรัฐบาล--8 ก.พ.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาหลักเกณฑ์การมีรถรับรองไว้ใช้ในราชการ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นใดของรัฐ รวมทั้งหน่วยงานตามระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นระงับการจัดซื้อรถรับรอง และรถรับรองประจำจังหวัดตามความหมายของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยรถราชการทหาร พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2525 และระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถราชการอื่นใดที่จะมีขึ้นในลักษณะเดียวกันของหน่วยงานต่าง ๆ อื่นใดของรัฐไม่ว่าจะจัดซื้อด้วยเงินงบประมาณ ซึ่งหมายถึงงบราชการลับ เงินนอกงบประมาณ หรืออุดหนุนที่จัดสรรให้หน่วยงานอื่นใดของรัฐ
2. ให้ส่วนราชการที่มีความจำเป็นต้องใช้รถรับรอง หรือรถรับรองประจำจังหวัดดังกล่าว เพื่อรับรองแขกต่างประเทศของทางราชการ หรือรับรองบุคคลสำคัญ ใช้รถที่ส่วนราชการมีอยู่ หรือยืมจากส่วนราชการที่มีรถรับรองใช้อยู่แล้ว หรือเช่าจากเอกชนตามความจำเป็นเป็นคราว ๆ ไป ทั้งนี้ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นใดของรัฐถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวโดยเคร่งครัด
3. ใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวในการพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนสำหรับองค์กรอื่นใดของรัฐที่มิใช่ส่วนราชการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและฐานะการเงินการคลังของประเทศอยู่ในสภาพที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการดูแลจัดสรรการใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองต่อมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมีรถยนต์ไว้ใช้ในราชการให้เหมาะสมกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ โดยที่รถยนต์เป็นครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาสูง เท่าที่ผ่านมาสำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่จะให้ส่วนราชการต่าง ๆ มีหลักเกณฑ์ในการใช้รถส่วนกลางและรถประจำตำแหน่งให้มีมาตรฐานเดียวกัน แต่ยังมีรถยนต์ใช้ในราชการบางประเภท เช่น รถรับรอง และรถรับรองประจำจังหวัดยังไม่มีหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานเกี่ยวกับการใช้รถชนิดดังกล่าวไว้ ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่า ส่วนราชการไม่มีความจำเป็นที่ต้องซื้อรถรับรองไว้ใช้ในราชการ แต่ในข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีส่วนราชการหลายแห่งซื้อรถรับรองชนิดที่มีขนาดเครื่องยนต์กำลังสูง และเป็นรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงมาก เป็นการสิ้นเปลืองทั้งเงินงบประมาณในการจัดซื้อ การดูแลบำรุงรักษา และน้ำมันเชื้อเพลิง และขัดต่อมาตรการสงวนเงินตราต่างประเทศ ทั้งยังทำให้เกิดความลักลั่นในระหว่างส่วนราชการด้วยกันบางครั้งมีการใช้รถรับรองเป็นรถส่วนตัว หรือรถประจำตำแหน่งที่สูงเกินกว่าฐานะตำแหน่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2543--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาหลักเกณฑ์การมีรถรับรองไว้ใช้ในราชการ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นใดของรัฐ รวมทั้งหน่วยงานตามระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นระงับการจัดซื้อรถรับรอง และรถรับรองประจำจังหวัดตามความหมายของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยรถราชการทหาร พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2525 และระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถราชการอื่นใดที่จะมีขึ้นในลักษณะเดียวกันของหน่วยงานต่าง ๆ อื่นใดของรัฐไม่ว่าจะจัดซื้อด้วยเงินงบประมาณ ซึ่งหมายถึงงบราชการลับ เงินนอกงบประมาณ หรืออุดหนุนที่จัดสรรให้หน่วยงานอื่นใดของรัฐ
2. ให้ส่วนราชการที่มีความจำเป็นต้องใช้รถรับรอง หรือรถรับรองประจำจังหวัดดังกล่าว เพื่อรับรองแขกต่างประเทศของทางราชการ หรือรับรองบุคคลสำคัญ ใช้รถที่ส่วนราชการมีอยู่ หรือยืมจากส่วนราชการที่มีรถรับรองใช้อยู่แล้ว หรือเช่าจากเอกชนตามความจำเป็นเป็นคราว ๆ ไป ทั้งนี้ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นใดของรัฐถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวโดยเคร่งครัด
3. ใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวในการพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนสำหรับองค์กรอื่นใดของรัฐที่มิใช่ส่วนราชการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและฐานะการเงินการคลังของประเทศอยู่ในสภาพที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการดูแลจัดสรรการใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองต่อมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมีรถยนต์ไว้ใช้ในราชการให้เหมาะสมกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ โดยที่รถยนต์เป็นครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาสูง เท่าที่ผ่านมาสำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่จะให้ส่วนราชการต่าง ๆ มีหลักเกณฑ์ในการใช้รถส่วนกลางและรถประจำตำแหน่งให้มีมาตรฐานเดียวกัน แต่ยังมีรถยนต์ใช้ในราชการบางประเภท เช่น รถรับรอง และรถรับรองประจำจังหวัดยังไม่มีหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานเกี่ยวกับการใช้รถชนิดดังกล่าวไว้ ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่า ส่วนราชการไม่มีความจำเป็นที่ต้องซื้อรถรับรองไว้ใช้ในราชการ แต่ในข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีส่วนราชการหลายแห่งซื้อรถรับรองชนิดที่มีขนาดเครื่องยนต์กำลังสูง และเป็นรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงมาก เป็นการสิ้นเปลืองทั้งเงินงบประมาณในการจัดซื้อ การดูแลบำรุงรักษา และน้ำมันเชื้อเพลิง และขัดต่อมาตรการสงวนเงินตราต่างประเทศ ทั้งยังทำให้เกิดความลักลั่นในระหว่างส่วนราชการด้วยกันบางครั้งมีการใช้รถรับรองเป็นรถส่วนตัว หรือรถประจำตำแหน่งที่สูงเกินกว่าฐานะตำแหน่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2543--