คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย เพื่อการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
สำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางไปร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนจีน สหภาพพม่า ไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และโครงการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (UNDCP) เพื่อการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาคระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2544 ณ กรุงย่างกุ้ง สหภาพพม่า ได้มีการประชุม 2 ระดับ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. การประชุมระดับรัฐมนตรี ซึ่งมี H.E. Col Tin Hlaing รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าคณะผู้แทนของสหภาพพม่า เป็นประธาน สรุปผลการประชุมดังนี้
1.1 ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2544 ซึ่ง Pol. Maj. Gen. Soe Win อธิบดีตำรวจสหภาพพม่า หัวหน้าคณะผู้แทนระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพพม่า ให้ความสำคัญต่อสถานการณ์ยาเสพติดในแต่ละประเทศ โดยปัญหาฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในภูมิภาค และที่ประชุมได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อปัญหาการแพร่ระบาดของสารกระตุ้นประเภทแอมเฟตามีน (ATS) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า (methamphetamine) ซึ่งได้แพร่ระบาดไปยังประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ รวมทั้งปัญหาการลักลอบค้าสารตั้งต้นเพื่อนำไปใช้ผลิตยาเสพติด
ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายอย่างชัดแจ้งที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติด โดยถือเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล และได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานตามข้อมติของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยยาเสพติด ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2541 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
1.2 ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญต่อการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่นำไปใช้ในการผลิตยาเสพติด ตลอดจนความร่วมมือตามแนวบริเวณชายแดนเพื่อการปราบปรามยาเสพติดของประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ ที่มีพรมแดนร่วมกัน
1.3 ที่ประชุมเห็นชอบกับข้อเสนอของที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ดังนี้
การทบทวนและแก้ไขปรับปรุงแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติด ที่ประชุมเห็นชอบกับการดำเนินงานในลักษณะของความเป็นหุ้นส่วนและความเป็นเจ้าของโครงการต่าง ๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติดมากขึ้น โดย UNDCP ได้เสนอเอกสารพิธีสารว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนของประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค (Protocol on Partnership to the 1993 MOU on Drug Control) เพื่อแสดงให้ประเทศผู้บริจาคเห็นว่า ประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ มีความพยายามที่จะช่วยเหลือตนเองเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาค โดยร่วมกันออกเงินสมทบเพื่อการดำเนินโครงการที่อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาค นอกเหนือจากการให้การสนับสนุนในลักษณะที่มิใช่ตัวเงิน โดยประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ จะต้องสนับสนุนงบประมาณแก่โครงการ ดังนี้
- กัมพูชาและลาว 3,000 เหรียญสหรัฐฯ
- พม่าและเวียดนาม 5,000 เหรียญสหรัฐฯ
- จีนและไทย 10,000 เหรียญสหรัฐฯและที่ประชุมเห็นชอบในหลักการกับสาระในพิธีสารฯ และเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อจากพิธีสารว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนฯ เป็นเอกสารเพิ่มเติมของบันทึกความเข้าใจฯ ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วน (Addendum on Partnership to the 1993 MOU on Drug Control) ซึ่งถ้าหากทุกประเทศดำเนินการตามขั้นตอนภายในประเทศแล้ว UNDCP จะเวียนเอกสารเพิ่มเติมดังกล่าวเพื่อให้มีการลงนามต่อไป
3) ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการลงนามในเอกสารโครงการควบคุมสารตั้งต้นในเอเชียตะวันออก (Precursor Control in East Asia) ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากโครงการเดิม โดยมีประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเข้าร่วมโครงการคือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้าและการรั่วไหลของสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด โดยกระผมได้ร่วมลงนามกับรัฐมนตรีของประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ อีก 5 ประเทศ และผู้แทน UNDCP ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2544
1.4 ที่ประชุมเห็นชอบปฏิญญาย่างกุ้งซึ่งย้ำถึงเจตนารมณ์ของความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคและตระหนักถึงกรอบความร่วมมือตามแผนปฏิบัติการอาเซียน-จีน เพื่อสร้างให้อาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติด ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุม International Congress ซึ่งประเทศไทยและ UNDCP เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2543
1.5 สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสครั้งต่อไปในปี 2545 และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีในปี 2546
2. การประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระหว่างไทย-พม่า และไทย-กัมพูชา
2.1 ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2544 ได้มีการประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างไทย-พม่า และไทย-กัมพูชา ซึ่งการประชุมเป็นไปด้วยดี โดยการประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงไทย-พม่านั้น ประเทศไทยได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและสารตั้งต้นระหว่างไทย-พม่า ซึ่งประเทศไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้เสนอให้ฝ่ายพม่าพิจารณา ทั้งนี้ ฝ่ายพม่าแจ้งว่ากำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสหภาพพม่าได้แสดงความจำนงขอรับความช่วยเหลือทางด้านวิชาการจากประเทศไทย โดยเฉพาะการอบรมเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด
2.2 การประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงไทย-กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายยืนยันความร่วมมือตามแนวชายแดนในระดับจังหวัด ระหว่างจังหวัดตราดของไทยและจังหวัดเกาะกงของราชอาณาจักรกัมพูชา และเห็นชอบที่จะขยายความร่วมมือในพื้นที่เพิ่มเติมอีก 1 จุด คือ ระหว่างจังหวัดสระแก้วของไทยและจังหวัดปอยเปตของราชอาณาจักรกัมพูชา และประเทศไทยยินดีให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่เจ้าหน้าที่กัมพูชา
2.3 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) ได้หารือกับ H.E. Col. Tin Hlaing รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าคณะผู้แทนพม่าเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหภาพพม่าด้านยาเสพติด โดยได้เสนอขอให้ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันในการทำโครงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และได้รับคำยืนยันจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสหภาพพม่าว่าพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 3 ก.ค.44--
-สส-
สำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางไปร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนจีน สหภาพพม่า ไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และโครงการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (UNDCP) เพื่อการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาคระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2544 ณ กรุงย่างกุ้ง สหภาพพม่า ได้มีการประชุม 2 ระดับ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. การประชุมระดับรัฐมนตรี ซึ่งมี H.E. Col Tin Hlaing รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าคณะผู้แทนของสหภาพพม่า เป็นประธาน สรุปผลการประชุมดังนี้
1.1 ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2544 ซึ่ง Pol. Maj. Gen. Soe Win อธิบดีตำรวจสหภาพพม่า หัวหน้าคณะผู้แทนระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพพม่า ให้ความสำคัญต่อสถานการณ์ยาเสพติดในแต่ละประเทศ โดยปัญหาฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในภูมิภาค และที่ประชุมได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อปัญหาการแพร่ระบาดของสารกระตุ้นประเภทแอมเฟตามีน (ATS) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า (methamphetamine) ซึ่งได้แพร่ระบาดไปยังประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ รวมทั้งปัญหาการลักลอบค้าสารตั้งต้นเพื่อนำไปใช้ผลิตยาเสพติด
ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายอย่างชัดแจ้งที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติด โดยถือเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล และได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานตามข้อมติของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยยาเสพติด ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2541 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
1.2 ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญต่อการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่นำไปใช้ในการผลิตยาเสพติด ตลอดจนความร่วมมือตามแนวบริเวณชายแดนเพื่อการปราบปรามยาเสพติดของประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ ที่มีพรมแดนร่วมกัน
1.3 ที่ประชุมเห็นชอบกับข้อเสนอของที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ดังนี้
การทบทวนและแก้ไขปรับปรุงแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติด ที่ประชุมเห็นชอบกับการดำเนินงานในลักษณะของความเป็นหุ้นส่วนและความเป็นเจ้าของโครงการต่าง ๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติดมากขึ้น โดย UNDCP ได้เสนอเอกสารพิธีสารว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนของประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค (Protocol on Partnership to the 1993 MOU on Drug Control) เพื่อแสดงให้ประเทศผู้บริจาคเห็นว่า ประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ มีความพยายามที่จะช่วยเหลือตนเองเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาค โดยร่วมกันออกเงินสมทบเพื่อการดำเนินโครงการที่อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาค นอกเหนือจากการให้การสนับสนุนในลักษณะที่มิใช่ตัวเงิน โดยประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ จะต้องสนับสนุนงบประมาณแก่โครงการ ดังนี้
- กัมพูชาและลาว 3,000 เหรียญสหรัฐฯ
- พม่าและเวียดนาม 5,000 เหรียญสหรัฐฯ
- จีนและไทย 10,000 เหรียญสหรัฐฯและที่ประชุมเห็นชอบในหลักการกับสาระในพิธีสารฯ และเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อจากพิธีสารว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนฯ เป็นเอกสารเพิ่มเติมของบันทึกความเข้าใจฯ ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วน (Addendum on Partnership to the 1993 MOU on Drug Control) ซึ่งถ้าหากทุกประเทศดำเนินการตามขั้นตอนภายในประเทศแล้ว UNDCP จะเวียนเอกสารเพิ่มเติมดังกล่าวเพื่อให้มีการลงนามต่อไป
3) ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการลงนามในเอกสารโครงการควบคุมสารตั้งต้นในเอเชียตะวันออก (Precursor Control in East Asia) ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากโครงการเดิม โดยมีประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเข้าร่วมโครงการคือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้าและการรั่วไหลของสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด โดยกระผมได้ร่วมลงนามกับรัฐมนตรีของประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจฯ อีก 5 ประเทศ และผู้แทน UNDCP ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2544
1.4 ที่ประชุมเห็นชอบปฏิญญาย่างกุ้งซึ่งย้ำถึงเจตนารมณ์ของความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคและตระหนักถึงกรอบความร่วมมือตามแผนปฏิบัติการอาเซียน-จีน เพื่อสร้างให้อาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติด ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุม International Congress ซึ่งประเทศไทยและ UNDCP เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2543
1.5 สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสครั้งต่อไปในปี 2545 และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีในปี 2546
2. การประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระหว่างไทย-พม่า และไทย-กัมพูชา
2.1 ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2544 ได้มีการประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างไทย-พม่า และไทย-กัมพูชา ซึ่งการประชุมเป็นไปด้วยดี โดยการประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงไทย-พม่านั้น ประเทศไทยได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและสารตั้งต้นระหว่างไทย-พม่า ซึ่งประเทศไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้เสนอให้ฝ่ายพม่าพิจารณา ทั้งนี้ ฝ่ายพม่าแจ้งว่ากำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสหภาพพม่าได้แสดงความจำนงขอรับความช่วยเหลือทางด้านวิชาการจากประเทศไทย โดยเฉพาะการอบรมเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด
2.2 การประชุมระดับทวิภาคีเพื่อการควบคุมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงไทย-กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายยืนยันความร่วมมือตามแนวชายแดนในระดับจังหวัด ระหว่างจังหวัดตราดของไทยและจังหวัดเกาะกงของราชอาณาจักรกัมพูชา และเห็นชอบที่จะขยายความร่วมมือในพื้นที่เพิ่มเติมอีก 1 จุด คือ ระหว่างจังหวัดสระแก้วของไทยและจังหวัดปอยเปตของราชอาณาจักรกัมพูชา และประเทศไทยยินดีให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่เจ้าหน้าที่กัมพูชา
2.3 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) ได้หารือกับ H.E. Col. Tin Hlaing รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าคณะผู้แทนพม่าเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหภาพพม่าด้านยาเสพติด โดยได้เสนอขอให้ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันในการทำโครงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และได้รับคำยืนยันจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสหภาพพม่าว่าพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 3 ก.ค.44--
-สส-