ทำเนียบรัฐบาล--21 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2542 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2542 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2542 โดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มีวัตถุประสงค์ที่นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร โดยมีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร" ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ 9 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 คน และผู้แทนเกษตรกรจำนวน 20 คน เป็นกรรมการ โดยมีเลขาธิการกองทุนฯ เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ในส่วนของผู้แทนเกษตรกรให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งเกษตรกร ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกองค์กรเกษตรกรในสี่ภูมิภาคอย่างน้อยภูมิภาคละสองคน ส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนของสมาชิกเกษตรกรในแต่ละภูมิภาค จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. เกษตรกรผู้จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการผู้แทนเกษตรกรและผู้ลงคะแนนเลือกตั้งจะต้องขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรเป็นสมาชิกกองทุน
2. การแบ่งภูมิภาคเพื่อใช้ในการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรแบ่งเป็น 4 ภาค ยึดหลักตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด โดยในภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคกลาง 26 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด และภาคใต้ 14 จังหวัด
3. ผู้แทนเกษตรกรในภาคเหนือมี 2 คน ภาคกลาง 2 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 คน และภาคใต้ 2 คน ผู้แทนเกษตรกรส่วนที่เหลือเป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนสมาชิกองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนในแต่ละภูมิภาค
4. การเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ให้มีหน่วยเลือกตั้งอย่างน้อยอำเภอละ 1 หน่วยหรือมากกว่าตามความเหมาะสม และให้มีจำนวนผู้แทนจำนวน 20 คนตามที่กำหนดคือ ภูมิภาคละ 2 คน ส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนของสมาชิกองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ในแต่ละภูมิภาค ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรในภาคของตนเองได้เพียง 1 คน โดยใช้บัตรเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรตามที่กำหนด ผู้ได้รับคะแนนสูงจะเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งตามลำดับคะแนนที่ได้จนครบจำนวนผู้แทนในภาคนั้น ๆ
5. วัน เวลา และสถานที่รับสมัครผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้มีสิทธิลงคะแนน ตลอดจนวันลงคะแนนให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 มีนาคม 2543--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2542 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2542 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2542 โดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มีวัตถุประสงค์ที่นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร โดยมีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร" ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ 9 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 คน และผู้แทนเกษตรกรจำนวน 20 คน เป็นกรรมการ โดยมีเลขาธิการกองทุนฯ เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ในส่วนของผู้แทนเกษตรกรให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งเกษตรกร ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกองค์กรเกษตรกรในสี่ภูมิภาคอย่างน้อยภูมิภาคละสองคน ส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนของสมาชิกเกษตรกรในแต่ละภูมิภาค จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. เกษตรกรผู้จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการผู้แทนเกษตรกรและผู้ลงคะแนนเลือกตั้งจะต้องขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรเป็นสมาชิกกองทุน
2. การแบ่งภูมิภาคเพื่อใช้ในการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรแบ่งเป็น 4 ภาค ยึดหลักตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด โดยในภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคกลาง 26 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด และภาคใต้ 14 จังหวัด
3. ผู้แทนเกษตรกรในภาคเหนือมี 2 คน ภาคกลาง 2 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 คน และภาคใต้ 2 คน ผู้แทนเกษตรกรส่วนที่เหลือเป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนสมาชิกองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนในแต่ละภูมิภาค
4. การเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ให้มีหน่วยเลือกตั้งอย่างน้อยอำเภอละ 1 หน่วยหรือมากกว่าตามความเหมาะสม และให้มีจำนวนผู้แทนจำนวน 20 คนตามที่กำหนดคือ ภูมิภาคละ 2 คน ส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนของสมาชิกองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ในแต่ละภูมิภาค ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรในภาคของตนเองได้เพียง 1 คน โดยใช้บัตรเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรตามที่กำหนด ผู้ได้รับคะแนนสูงจะเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งตามลำดับคะแนนที่ได้จนครบจำนวนผู้แทนในภาคนั้น ๆ
5. วัน เวลา และสถานที่รับสมัครผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้มีสิทธิลงคะแนน ตลอดจนวันลงคะแนนให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 มีนาคม 2543--