คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยได้แก้ไขวันใช้บังคับจาก "ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป" เป็น "ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545เป็นต้นไป" เพื่อให้ระยะเวลาการดำเนินการตามร่างพระราชกฤษฎีกานี้สอดรับกับพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเบี้ยกันดาร พ.ศ. 2524 และมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้จ่ายเบี้ยเสี่ยงภัยที่ยังมีผลใช้บังคับอยู่จนกว่าพระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับ
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเกี่ยวกับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษเป็นไปโดยสอดคล้องกับสภาพการณ์และสถานะการเงินการคลังของประเทศในปัจจุบัน และเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมมากขึ้น ประกอบกับคณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเบี้ยกันดาร พ.ศ. 2524 และกำหนดการจ่ายเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษตามร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. …. ขึ้นใช้บังคับแทน โดยนำเรื่องการให้สิทธิประโยชน์ตอบแทนแก่ครูและลูกจ้างในโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2531 มาบัญญัติรวมไว้ด้วย ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจะถูกยกเลิกเมื่อร่างพระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2544
2. กำหนดให้เฉพาะข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการที่ปฏิบัติราชการประจำหรือลักษณะประจำในพื้นที่พิเศษที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนดเท่านั้น ที่จะมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ โดยให้มีสิทธิได้รับคนละหนึ่งพันบาทต่อเดือน
3. กำหนดให้กระทรวงการคลังประกาศกำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษ โดยร่วมพิจารณากับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
3.1 ความยากลำบากของการคมนาคม
3.2 ความขาดแคลนสาธารณูปโภค สาธารณูปการ หรือปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ
3.3 ความเสี่ยงภัย
3.4 ความชุกชุมของโรคภัยไข้เจ็บ
4. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 พ.ย. 44--
-สส-
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเกี่ยวกับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษเป็นไปโดยสอดคล้องกับสภาพการณ์และสถานะการเงินการคลังของประเทศในปัจจุบัน และเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมมากขึ้น ประกอบกับคณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเบี้ยกันดาร พ.ศ. 2524 และกำหนดการจ่ายเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษตามร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. …. ขึ้นใช้บังคับแทน โดยนำเรื่องการให้สิทธิประโยชน์ตอบแทนแก่ครูและลูกจ้างในโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2531 มาบัญญัติรวมไว้ด้วย ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจะถูกยกเลิกเมื่อร่างพระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2544
2. กำหนดให้เฉพาะข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการที่ปฏิบัติราชการประจำหรือลักษณะประจำในพื้นที่พิเศษที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนดเท่านั้น ที่จะมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ โดยให้มีสิทธิได้รับคนละหนึ่งพันบาทต่อเดือน
3. กำหนดให้กระทรวงการคลังประกาศกำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษ โดยร่วมพิจารณากับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
3.1 ความยากลำบากของการคมนาคม
3.2 ความขาดแคลนสาธารณูปโภค สาธารณูปการ หรือปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ
3.3 ความเสี่ยงภัย
3.4 ความชุกชุมของโรคภัยไข้เจ็บ
4. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 พ.ย. 44--
-สส-