คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ประจำปี 2544 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะ เดินทางไปเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ระหว่างวันที่ 6 - 8 มิถุนายน 2544 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีผลการประชุมในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ และประเทศไทยได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. การเข้าร่วมประชุมเป็นประโยชน์มาก ได้รับฟังและรับทราบข้อคิดเห็นทั้งของสมาชิกที่พัฒนาแล้ว และสมาชิกกำลังพัฒนาในเอเปคที่มีความหลากหลาย รวมทั้งข้อริเริ่ม (initiatives) ใหม่ ๆ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจะช่วยในการหาทางปรับตัวและจัดทำท่าทีของไทยในประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้าเสรี เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้สมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และชี้นำแนวทางที่จะดำเนินไปด้วยกันได้
2. ในช่วงการประชุมและงานเลี้ยง ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับรัฐมนตรีการค้าของสมาชิกเอเปคมากมาย รวมทั้งสามารถนัดหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีการค้า 6 ประเทศ ซึ่งได้หารือกันอย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถยกประเด็นปัญหาการค้าสองฝ่ายมาหาทางแก้ไข ส่งเสริมการขยายการค้าระหว่างกัน และผลักดันความร่วมมือที่ไทยจะได้ประโยชน์
3. สำหรับการประชุมครั้งนี้ ไทยได้ผลักดันสมาชิกกำลังพัฒนาให้ความช่วยเหลือทวิภาคีด้าน capacitybuilding ในการปฏิบัติตามพันธกรณี WTO นอกจากญี่ปุ่นที่จะให้ความช่วยเหลือไทยในการจัดทำระบบข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามความตกลง WTO และการสัมมนา/ฝึกอบรมต่าง ๆ เช่น ความตกลงการค้าบริการ การตอบโต้การทุ่มตลาดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและทักษะการเจรจาแล้ว แคนาดาก็ได้หารือที่จะมีความร่วมมือและให้ความช่วยเหลือกับไทยด้าน capacity building ในเรื่องนี้ด้วย
4. สมาชิกส่วนใหญ่ รวมทั้งไทยได้สนับสนุนให้รวมเรื่อง Human Capacity Building ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อตอบสนองความต้องการและส่งเสริมโอกาสของ New Economy เป็นประเด็นหลักเรื่องหนึ่งในการประชุมรัฐมนตรีและผู้นำเอเปค เดือนตุลาคม ศกนี้ ซึ่งความร่วมมือของเอเปคในเรื่องนี้ต่อไปจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาบุคลากรของสมาชิกกำลังพัฒนาเพื่อรองรับเรื่องเศรษฐกิจใหม่
5. ไทยได้แสดงบทบาท โดยประกาศเชิญชวนสมาชิกส่งผู้แทนเข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง Regional TradingArrangements : Stocktake and Next Stops ที่จัดโดยสภาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจแปซิฟิค (Pacific Economic Cooperation : PECC) ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 12 - 13 มิถุนายน ศกนี้ ที่กรุงเทพฯ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ในการเจรจาจัดทำ RTAs/FTAs ซึ่งกำลังเป็นเรื่องที่สมาชิกเอเปคให้ความสนใจในขณะนี้
6. นอกจากนั้น ยังได้ผลักดันความร่วมมือที่จะเป็นประโยชน์กับไทยจากผลการประชุม Automotive Dialogue โดยเฉพาะแผนงานความช่วยเหลือจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แก่บริษัทรายย่อยผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในภูมิภาค
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 มิ.ย.44--
-สส-
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะ เดินทางไปเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ระหว่างวันที่ 6 - 8 มิถุนายน 2544 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีผลการประชุมในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ และประเทศไทยได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. การเข้าร่วมประชุมเป็นประโยชน์มาก ได้รับฟังและรับทราบข้อคิดเห็นทั้งของสมาชิกที่พัฒนาแล้ว และสมาชิกกำลังพัฒนาในเอเปคที่มีความหลากหลาย รวมทั้งข้อริเริ่ม (initiatives) ใหม่ ๆ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจะช่วยในการหาทางปรับตัวและจัดทำท่าทีของไทยในประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้าเสรี เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้สมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และชี้นำแนวทางที่จะดำเนินไปด้วยกันได้
2. ในช่วงการประชุมและงานเลี้ยง ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับรัฐมนตรีการค้าของสมาชิกเอเปคมากมาย รวมทั้งสามารถนัดหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีการค้า 6 ประเทศ ซึ่งได้หารือกันอย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถยกประเด็นปัญหาการค้าสองฝ่ายมาหาทางแก้ไข ส่งเสริมการขยายการค้าระหว่างกัน และผลักดันความร่วมมือที่ไทยจะได้ประโยชน์
3. สำหรับการประชุมครั้งนี้ ไทยได้ผลักดันสมาชิกกำลังพัฒนาให้ความช่วยเหลือทวิภาคีด้าน capacitybuilding ในการปฏิบัติตามพันธกรณี WTO นอกจากญี่ปุ่นที่จะให้ความช่วยเหลือไทยในการจัดทำระบบข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามความตกลง WTO และการสัมมนา/ฝึกอบรมต่าง ๆ เช่น ความตกลงการค้าบริการ การตอบโต้การทุ่มตลาดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและทักษะการเจรจาแล้ว แคนาดาก็ได้หารือที่จะมีความร่วมมือและให้ความช่วยเหลือกับไทยด้าน capacity building ในเรื่องนี้ด้วย
4. สมาชิกส่วนใหญ่ รวมทั้งไทยได้สนับสนุนให้รวมเรื่อง Human Capacity Building ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อตอบสนองความต้องการและส่งเสริมโอกาสของ New Economy เป็นประเด็นหลักเรื่องหนึ่งในการประชุมรัฐมนตรีและผู้นำเอเปค เดือนตุลาคม ศกนี้ ซึ่งความร่วมมือของเอเปคในเรื่องนี้ต่อไปจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาบุคลากรของสมาชิกกำลังพัฒนาเพื่อรองรับเรื่องเศรษฐกิจใหม่
5. ไทยได้แสดงบทบาท โดยประกาศเชิญชวนสมาชิกส่งผู้แทนเข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง Regional TradingArrangements : Stocktake and Next Stops ที่จัดโดยสภาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจแปซิฟิค (Pacific Economic Cooperation : PECC) ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 12 - 13 มิถุนายน ศกนี้ ที่กรุงเทพฯ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ในการเจรจาจัดทำ RTAs/FTAs ซึ่งกำลังเป็นเรื่องที่สมาชิกเอเปคให้ความสนใจในขณะนี้
6. นอกจากนั้น ยังได้ผลักดันความร่วมมือที่จะเป็นประโยชน์กับไทยจากผลการประชุม Automotive Dialogue โดยเฉพาะแผนงานความช่วยเหลือจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แก่บริษัทรายย่อยผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในภูมิภาค
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 มิ.ย.44--
-สส-