ทำเนียบรัฐบาล--6 พ.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5
การส่งออกในเดือนกันยายนมีมูลค่า 0,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2542 ร้อยละ 18.1 เพิ่มขึ้นในอัตราสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่เก้า
ในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 (ม.ค.-ก.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 51,382 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวของปี 2542 ร้อยละ 21.5 และคิดเป็นร้อยละ 82.9 ของเป้าหมายการส่งออก
ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกขยายตัวในอัตราสูง
- การขยายตัวของความต้องการในตลาดโลกตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าของโลก และตลาดส่งออกสำคัญของไทย รวมทั้งค่าเงินบาที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง
- ความช่วยเหลือจากบริษัทแม้ในต่างประเทศในการขยายตลาดของสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญหลายรายการ โดยเฉพาะที่เป็นการลงทุนหรือร่วมทุนกับต่างประเทศ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอิเล็กทรอนิคส์ และยานยนต์
- การขยายตัวของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ความต้องการสินค้าเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเพิ่มขึ้นมาก
- ความร่วมมือระหว่างภาคราชการและเอกชนในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งการเจาะและขยายตลาดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
2. การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4
การนำเข้าในเดือนกันยายนมีมูลค่า 5,384 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2542 ถึงร้อยละ 22.3 เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงในทุกหมวดสินค้าสำคัญ
การนำเข้าในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 45,288 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2542 ร้อยละ 20.4 ตามการขยายตัวของการส่งออก รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันจากต่างประเทศ โดยเป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงในทุกหมวด (การนำเข้าสินค้าทุนจะขยายตัวถึงร้อยละ 27.5 หากหักการนำเข้าเครื่องบินออก)
3. ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามสิบแปด
เดือนกันยายน ดุลการค้าเกินดุลมีมูลค่า 714 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 (ม.ค.-ก.ย.) ดุลการค้าเกินดุลมีมูลค่า 6,094 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2542 ร้อยละ 5.8
ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยมีดุลการค้าเกินดุล คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สิงคโปร์ ฮ่องกง แอฟริกา ออสเตรเลีย และ
ประเทศที่ไทยขาดดุลการค้าได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และยุโรปตะวันออก
4. การส่งออกของประเทศต่างๆ เปรียบเทียบกัยไทย
ปี 2543 ล้าน US $ %เพิ่ม/ลด
ไทย (ม.ค.-ก.ย.) 51,382 21.5
เกาหลีใต้ (ม.ค.-ส.ค.) 112,116 25.8
จีน (ม.ค.-ก.ค.) 135,996 35.5
ไต้หวัน (ม.ค.-ก.ค.) 84,006 25.1
เวียดนาม (ม.ค.-ก.ค.) 7,867 27.5
มาเลเซีย (ม.ค.-มิ.ย.) 46,177 19.1
สิงคโปร์ (ม.ค.-มิ.ย.) 63,403 17.2
อินโดนีเซีย (ม.ค.-พ.ค.) 24,009 32.7
ฮ่องกง (ม.ค.-เม.ย.) 59,655 18.7
ประเทศในเอเซียส่วนใหญ่การส่งออกขยายตัวในอัตราสูงเช่นเดียวกับไทย
ประเทศที่ขยายตัวสูงกว่าไทยได้แก่ จีน อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน
- ประเทศที่มีอัตราขยายตัวต่ำกว่าไทย ได้แก่ มาเลเซีย ฮ่องกง และสิงคโปร์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 พ.ย. 2543--
-สส-
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5
การส่งออกในเดือนกันยายนมีมูลค่า 0,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2542 ร้อยละ 18.1 เพิ่มขึ้นในอัตราสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่เก้า
ในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 (ม.ค.-ก.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 51,382 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวของปี 2542 ร้อยละ 21.5 และคิดเป็นร้อยละ 82.9 ของเป้าหมายการส่งออก
ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกขยายตัวในอัตราสูง
- การขยายตัวของความต้องการในตลาดโลกตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าของโลก และตลาดส่งออกสำคัญของไทย รวมทั้งค่าเงินบาที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง
- ความช่วยเหลือจากบริษัทแม้ในต่างประเทศในการขยายตลาดของสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญหลายรายการ โดยเฉพาะที่เป็นการลงทุนหรือร่วมทุนกับต่างประเทศ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอิเล็กทรอนิคส์ และยานยนต์
- การขยายตัวของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ความต้องการสินค้าเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเพิ่มขึ้นมาก
- ความร่วมมือระหว่างภาคราชการและเอกชนในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งการเจาะและขยายตลาดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
2. การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4
การนำเข้าในเดือนกันยายนมีมูลค่า 5,384 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2542 ถึงร้อยละ 22.3 เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงในทุกหมวดสินค้าสำคัญ
การนำเข้าในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 45,288 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2542 ร้อยละ 20.4 ตามการขยายตัวของการส่งออก รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันจากต่างประเทศ โดยเป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงในทุกหมวด (การนำเข้าสินค้าทุนจะขยายตัวถึงร้อยละ 27.5 หากหักการนำเข้าเครื่องบินออก)
3. ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามสิบแปด
เดือนกันยายน ดุลการค้าเกินดุลมีมูลค่า 714 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 (ม.ค.-ก.ย.) ดุลการค้าเกินดุลมีมูลค่า 6,094 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากระยะเดียวกันของปี 2542 ร้อยละ 5.8
ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยมีดุลการค้าเกินดุล คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สิงคโปร์ ฮ่องกง แอฟริกา ออสเตรเลีย และ
ประเทศที่ไทยขาดดุลการค้าได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และยุโรปตะวันออก
4. การส่งออกของประเทศต่างๆ เปรียบเทียบกัยไทย
ปี 2543 ล้าน US $ %เพิ่ม/ลด
ไทย (ม.ค.-ก.ย.) 51,382 21.5
เกาหลีใต้ (ม.ค.-ส.ค.) 112,116 25.8
จีน (ม.ค.-ก.ค.) 135,996 35.5
ไต้หวัน (ม.ค.-ก.ค.) 84,006 25.1
เวียดนาม (ม.ค.-ก.ค.) 7,867 27.5
มาเลเซีย (ม.ค.-มิ.ย.) 46,177 19.1
สิงคโปร์ (ม.ค.-มิ.ย.) 63,403 17.2
อินโดนีเซีย (ม.ค.-พ.ค.) 24,009 32.7
ฮ่องกง (ม.ค.-เม.ย.) 59,655 18.7
ประเทศในเอเซียส่วนใหญ่การส่งออกขยายตัวในอัตราสูงเช่นเดียวกับไทย
ประเทศที่ขยายตัวสูงกว่าไทยได้แก่ จีน อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน
- ประเทศที่มีอัตราขยายตัวต่ำกว่าไทย ได้แก่ มาเลเซีย ฮ่องกง และสิงคโปร์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 พ.ย. 2543--
-สส-