ทำเนียบรัฐบาล--14 มิ.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินงานการดำเนินงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าราชบุรี ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2539 - กุมภาพันธ์ 2543 สรุปได้ดังนี้
1. งานก่อสร้าง
1.1 โรงไฟฟ้าพลังความร้อน เครื่องที่ 1 (ขนาดกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์) ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบครั้งแรกแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2542 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงานทดสอบเครื่องทางด้านเทคนิค และหากไม่มีปัญหาข้อบกพร่องก็จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนมิถุนายน 2543
1.2 โรงไฟฟ้าพลังความร้อน เครื่องที่ 2 (ชนาดกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์) ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 87 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามแผนภายในเดือนพฤศจิกายน 2543
1.3 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 1
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ เครื่องที่ 1 และ 2 (ขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 200 เมกะวัตต์)ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2542 และวันที่ 8 ธันวาคม2542 ตามลำดับ ได้ดำเนินการทดสอบเครื่องด้านเทคนิคตามเงื่อนไขสัญญา พบว่าเกิดการสั่น (Vibration) ที่ห้องเผาไหม้(Combustion Chamber) ขณะนี้ทางบริษัทผู้ผลิตดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอยู่ และแจ้งว่าจะต้องใช้เวลาในการจัดซื้ออุปกรณ์ จะจัดส่งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2543 ซึ่ง กฟผ. จะต้องทำการติดตั้งและทดสอบอีกประมาณ 3 เดือน หากผลการทดสอบเป็นที่ยอมรับ คาดว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซทั้งสองเครื่องนี้จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในเชิงพาณิชย์ในเดือนสิงหาคม และกันยายน 2543 ตามลำดับ
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำ (ขนาดกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์) แล้วเสร็จร้อยละ 57 คาดว่าหากการทดสอบเครื่องด้านเทคนิคไม่มีปัญหา จะจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนมีนาคม 2544
1.4 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 2
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ เครื่องที่ 1 และ 2 (ขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 200 เมกะวัตต์)ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 84 และ 82 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2543 ตามลำดับ
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำ (ขนาดกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์) แล้วเสร็จร้อยละ 43 โดยมีกำหนดจะจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนกรกฎาคม 2544
1.5 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 3
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ เครื่องที่ 1 และ 2 (ขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 200 เมกะวัตต์)ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 61 ทั้ง 2 เครื่อง และมีกำหนดจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนธันวาคม2543 และมกราคม 2544 ตามลำดับ
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำ (ขนาดกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์) ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 30 และมีกำหนดจะจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนตุลาคม 2544
2. การจัดทำสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติจากสหภาพพม่า
การจัดทำสัญญาฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ โดยมีบางประเด็นในเงื่อนไขของสัญญาฯ ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ ได้แก่ วันบังคับใช้สัญญา ปริมาณการซื้อขายก๊าซ ข้อกำหนดเรื่องคุณภาพของก๊าซฯ และข้อกำหนดด้านเทคนิค คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2543
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 13 มิ.ย. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินงานการดำเนินงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าราชบุรี ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2539 - กุมภาพันธ์ 2543 สรุปได้ดังนี้
1. งานก่อสร้าง
1.1 โรงไฟฟ้าพลังความร้อน เครื่องที่ 1 (ขนาดกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์) ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบครั้งแรกแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2542 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงานทดสอบเครื่องทางด้านเทคนิค และหากไม่มีปัญหาข้อบกพร่องก็จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนมิถุนายน 2543
1.2 โรงไฟฟ้าพลังความร้อน เครื่องที่ 2 (ชนาดกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์) ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 87 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามแผนภายในเดือนพฤศจิกายน 2543
1.3 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 1
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ เครื่องที่ 1 และ 2 (ขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 200 เมกะวัตต์)ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2542 และวันที่ 8 ธันวาคม2542 ตามลำดับ ได้ดำเนินการทดสอบเครื่องด้านเทคนิคตามเงื่อนไขสัญญา พบว่าเกิดการสั่น (Vibration) ที่ห้องเผาไหม้(Combustion Chamber) ขณะนี้ทางบริษัทผู้ผลิตดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอยู่ และแจ้งว่าจะต้องใช้เวลาในการจัดซื้ออุปกรณ์ จะจัดส่งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2543 ซึ่ง กฟผ. จะต้องทำการติดตั้งและทดสอบอีกประมาณ 3 เดือน หากผลการทดสอบเป็นที่ยอมรับ คาดว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซทั้งสองเครื่องนี้จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในเชิงพาณิชย์ในเดือนสิงหาคม และกันยายน 2543 ตามลำดับ
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำ (ขนาดกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์) แล้วเสร็จร้อยละ 57 คาดว่าหากการทดสอบเครื่องด้านเทคนิคไม่มีปัญหา จะจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนมีนาคม 2544
1.4 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 2
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ เครื่องที่ 1 และ 2 (ขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 200 เมกะวัตต์)ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 84 และ 82 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2543 ตามลำดับ
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำ (ขนาดกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์) แล้วเสร็จร้อยละ 43 โดยมีกำหนดจะจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนกรกฎาคม 2544
1.5 โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ชุดที่ 3
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ เครื่องที่ 1 และ 2 (ขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 200 เมกะวัตต์)ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 61 ทั้ง 2 เครื่อง และมีกำหนดจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนธันวาคม2543 และมกราคม 2544 ตามลำดับ
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำ (ขนาดกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์) ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 30 และมีกำหนดจะจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ประมาณเดือนตุลาคม 2544
2. การจัดทำสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติจากสหภาพพม่า
การจัดทำสัญญาฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ โดยมีบางประเด็นในเงื่อนไขของสัญญาฯ ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ ได้แก่ วันบังคับใช้สัญญา ปริมาณการซื้อขายก๊าซ ข้อกำหนดเรื่องคุณภาพของก๊าซฯ และข้อกำหนดด้านเทคนิค คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2543
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 13 มิ.ย. 2543--
-สส-