ทำเนียบรัฐบาล--30 พ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2543 ได้มีการพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเงินเพิ่มค่าอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2542/43 แล้วมีมติให้กระทรวงการคลังประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พิจารณาจัดสรรเงินในวงเงิน 5,320 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเพิ่มเป็นค่าอ้อยขั้นต้นให้กับชาวไร่อ้อยในอัตราตันอ้อยละ 100 บาท
เพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้เสนอมาตรการในการเพิ่มรายได้ให้แก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ดังนี้
1. ปรับราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายในประเทศเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาท
2. กำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยใช้ระบบภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือในการควบคุมราคา
3. แยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศ
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีมติตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ดำเนินการตามแนวทางที่ 3 ให้แยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศ ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้น ให้นำเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายต่อไป
2. เห็นชอบมาตรการในการปรับปรุงระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ดังนี้
2.1 การปรับปรุงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอ้อย
1) กำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเพาะปลูกอ้อยตามมาตรา 17 (2) และกำหนดปริมาณอ้อยเป้าหมายให้ชาวไร่ผลิตตามมาตรา 17 (7)
2) จัดระเบียบการส่งอ้อยของชาวไร่ตามมาตรา 17 (10) โดยให้อ้อยที่เพาะปลูกในพื้นที่ใกล้โรงงานใดเป็นคู่สัญญากับโรงงานนั้น ทั้งนี้ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานน้ำตาล
3) กำหนดปริมาณอ้อยเป้าหมายตามมาตรา 17 (1) ในแต่ละปีการผลิตให้สอดคล้องกับภาวะการณ์ของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และกำหนดระเบียบการจัดการอ้อยส่วนเกินตามมาตรา 17 (14)
2.2 การปรับปรุงด้านโรงงานน้ำตาล
1) จัดระเบียบการรับอ้อยของโรงงานให้สอดคล้องตามข้อ 1)
2) กำหนดปริมาณการผลิตน้ำตาลทรายเป้าหมายในแต่ละปีการผลิตคงที่ตามข้อ 3) เพื่อไม่ให้มีปริมาณน้ำตาลทรายผลิตเกิดจากความต้องการของตลาด อันจะส่งผลต่อราคาอ้อยตกต่ำ
3) กำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายของโรงงานเพื่อให้โรงงานมีการพัฒนา อันจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
4) ให้มีการกำหนดระเบียบจัดการน้ำตาลทรายส่วนที่ผลิตเกินปริมาณที่กำหนดตามมาตรา 17 (14)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 พฤษภาคม 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2543 ได้มีการพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเงินเพิ่มค่าอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2542/43 แล้วมีมติให้กระทรวงการคลังประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พิจารณาจัดสรรเงินในวงเงิน 5,320 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเพิ่มเป็นค่าอ้อยขั้นต้นให้กับชาวไร่อ้อยในอัตราตันอ้อยละ 100 บาท
เพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้เสนอมาตรการในการเพิ่มรายได้ให้แก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ดังนี้
1. ปรับราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายในประเทศเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาท
2. กำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยใช้ระบบภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือในการควบคุมราคา
3. แยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศ
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีมติตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ดำเนินการตามแนวทางที่ 3 ให้แยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศ ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้น ให้นำเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายต่อไป
2. เห็นชอบมาตรการในการปรับปรุงระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ดังนี้
2.1 การปรับปรุงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอ้อย
1) กำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเพาะปลูกอ้อยตามมาตรา 17 (2) และกำหนดปริมาณอ้อยเป้าหมายให้ชาวไร่ผลิตตามมาตรา 17 (7)
2) จัดระเบียบการส่งอ้อยของชาวไร่ตามมาตรา 17 (10) โดยให้อ้อยที่เพาะปลูกในพื้นที่ใกล้โรงงานใดเป็นคู่สัญญากับโรงงานนั้น ทั้งนี้ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานน้ำตาล
3) กำหนดปริมาณอ้อยเป้าหมายตามมาตรา 17 (1) ในแต่ละปีการผลิตให้สอดคล้องกับภาวะการณ์ของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และกำหนดระเบียบการจัดการอ้อยส่วนเกินตามมาตรา 17 (14)
2.2 การปรับปรุงด้านโรงงานน้ำตาล
1) จัดระเบียบการรับอ้อยของโรงงานให้สอดคล้องตามข้อ 1)
2) กำหนดปริมาณการผลิตน้ำตาลทรายเป้าหมายในแต่ละปีการผลิตคงที่ตามข้อ 3) เพื่อไม่ให้มีปริมาณน้ำตาลทรายผลิตเกิดจากความต้องการของตลาด อันจะส่งผลต่อราคาอ้อยตกต่ำ
3) กำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายของโรงงานเพื่อให้โรงงานมีการพัฒนา อันจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
4) ให้มีการกำหนดระเบียบจัดการน้ำตาลทรายส่วนที่ผลิตเกินปริมาณที่กำหนดตามมาตรา 17 (14)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 30 พฤษภาคม 2543--
-สส-