ทำเนียบรัฐบาล--4 เม.ย.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ไตรมาสที่ 1 และอนุมัติข้อเสนอแนะในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไว้พิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ซึ่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้วทั้งสิ้น 179,154 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.83 ของวงเงินงบประมาณ สูงกว่าเป้าหมายเท่ากับ 9,054 ล้านบาท (179,154 - 170,100) หรือร้อยละ 0.83 (20.83 - 20.00) โดยหมวดรายจ่ายที่มีการเบิกจ่ายสูงกว่าเป้าหมายมากที่สุด ได้แก่ หมวดเงินอุดหนุนมีการเบิกจ่ายจำนวน 27,198 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายคือ 20,000 ล้านบาท เท่ากับ 7,198 ล้านบาท ส่วนหมวดค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง มีการเบิกจ่ายจำนวน 14,975 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายคือ 16,500 ล้านบาท เท่ากับ 1,525 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ของไตรมาสที่ 1 สูงกว่าเป้าหมาย คาดว่าเป็นผลมาจากปัจจัย 3 ประการ คือ
1.1 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2542 ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 รายไตรมาส เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการติดตามและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ รวมทั้งได้มอบมหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีร่วมกันจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการบริหารและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานได้จัดประชุมดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2542
1.2 กระทรวงการคลังขอความร่วมมือจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัดของแต่ละกระทรวงหรือทบวง ให้ติดตามและเร่งรัดการดำเนินการและการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดตั้แต่ต้นปี พร้อมทั้งจัดส่งรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 จำแนกตามหน่วยงานให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นประจำทุกเดือน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการติดตามและเร่งรัดการใช้จ่ายเงิน นอกจากนี้ ได้มีหนังสือเวียนแจ้งให้หน่วยงานต่าง ๆ ทราบว่าจะไม่ให้มีการกันเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ไว้เบิกเหลื่อมปี กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันให้ทันภายในปีงบประมาณ
1.3 สำนักงบประมาณอนุมัติเงินประจำงวด หมวดเงินอุดหนุนทั่วไปของส่วนราชการบางแห่งในไตรมาสที่ 1 ในอัตราร้อยละ 50 ของวงเงินงบประมาณ ทำให้ส่วนราชการสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ในภาพรวมสูงกว่าเป้าหมาย
2. คณะรัฐมนตรีอนุมัติข้อเสนอแนะในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 เนื่องจากการวิเคราะห์ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2538 -2542) ปรากฏว่า อัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนอยู่ในช่วงร้อยละ 56 - 63 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำมาก เนื่องจากความล่าช้าในการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายลงทุนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ กระทรวงการคลังจึงขอเสนอแนะแนวทางในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 โดยเฉพาะงบประมาณรายจ่ายลงทุน ดังนี้
2.1 ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับและดูแลส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดให้เร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ให้เป็นไปตามแผนบริหารการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ในกรณีที่มีปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินงานหรือการใช้จ่ายเงินให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาสั่งการแก้ไขโดยด่วน
2.2 ส่วนราชการบางแห่งไม่ได้เตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการก่อหนี้ผูกพันตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาสที่ 1 ส่งผลให้การดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ ล่าช้า ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้ตั้งแต่ต้นปี จึงเห็นควรให้ส่วนราชการเร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในปีงบประมาณ
2.3 เนื่องจากสัดส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนในช่วงที่ผ่านมาปรากฏว่า งบประมาณรายจ่ายลงทุนประมาณร้อยละ 50 จะเบิกจ่ายในส่วนภูมิภาค จึงเห็นควรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการในจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งรัดให้สามารถดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินได้ตามเป้าหมายหรือตามแผนที่ส่วนราชการวางไว้ ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 กระทรวงการคลังได้สั่งการให้สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศจัดทำรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ของจังหวัด เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการติดตามและแก้ไขปัญหาในการใช้จ่ายเงินได้อย่างทันท่วงที
2.4 กระทรวงการคลังมีข้อสังเกตว่า เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ให้เสร็จทันภายในปีงบประมาณ อันเป็นการรักษาวินัยทางการคลังและให้การจัดสรรงบประมาณในแต่ละปีเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับความสามารถในการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จึงสมควรที่จะให้มีการนำผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของแต่ละหน่วยงานในอดีต โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่าง ๆ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 และปีต่อ ๆ ไป และขอให้สำนักงบประมาณรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 เมษายน 2543--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ไตรมาสที่ 1 และอนุมัติข้อเสนอแนะในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไว้พิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ซึ่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้วทั้งสิ้น 179,154 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.83 ของวงเงินงบประมาณ สูงกว่าเป้าหมายเท่ากับ 9,054 ล้านบาท (179,154 - 170,100) หรือร้อยละ 0.83 (20.83 - 20.00) โดยหมวดรายจ่ายที่มีการเบิกจ่ายสูงกว่าเป้าหมายมากที่สุด ได้แก่ หมวดเงินอุดหนุนมีการเบิกจ่ายจำนวน 27,198 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายคือ 20,000 ล้านบาท เท่ากับ 7,198 ล้านบาท ส่วนหมวดค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง มีการเบิกจ่ายจำนวน 14,975 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายคือ 16,500 ล้านบาท เท่ากับ 1,525 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ของไตรมาสที่ 1 สูงกว่าเป้าหมาย คาดว่าเป็นผลมาจากปัจจัย 3 ประการ คือ
1.1 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2542 ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 รายไตรมาส เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการติดตามและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ รวมทั้งได้มอบมหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีร่วมกันจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการบริหารและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานได้จัดประชุมดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2542
1.2 กระทรวงการคลังขอความร่วมมือจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัดของแต่ละกระทรวงหรือทบวง ให้ติดตามและเร่งรัดการดำเนินการและการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดตั้แต่ต้นปี พร้อมทั้งจัดส่งรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 จำแนกตามหน่วยงานให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นประจำทุกเดือน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการติดตามและเร่งรัดการใช้จ่ายเงิน นอกจากนี้ ได้มีหนังสือเวียนแจ้งให้หน่วยงานต่าง ๆ ทราบว่าจะไม่ให้มีการกันเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ไว้เบิกเหลื่อมปี กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันให้ทันภายในปีงบประมาณ
1.3 สำนักงบประมาณอนุมัติเงินประจำงวด หมวดเงินอุดหนุนทั่วไปของส่วนราชการบางแห่งในไตรมาสที่ 1 ในอัตราร้อยละ 50 ของวงเงินงบประมาณ ทำให้ส่วนราชการสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ในภาพรวมสูงกว่าเป้าหมาย
2. คณะรัฐมนตรีอนุมัติข้อเสนอแนะในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 เนื่องจากการวิเคราะห์ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2538 -2542) ปรากฏว่า อัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนอยู่ในช่วงร้อยละ 56 - 63 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำมาก เนื่องจากความล่าช้าในการดำเนินงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายลงทุนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ กระทรวงการคลังจึงขอเสนอแนะแนวทางในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 โดยเฉพาะงบประมาณรายจ่ายลงทุน ดังนี้
2.1 ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับและดูแลส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดให้เร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ให้เป็นไปตามแผนบริหารการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ในกรณีที่มีปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินงานหรือการใช้จ่ายเงินให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาสั่งการแก้ไขโดยด่วน
2.2 ส่วนราชการบางแห่งไม่ได้เตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการก่อหนี้ผูกพันตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาสที่ 1 ส่งผลให้การดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ ล่าช้า ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้ตั้งแต่ต้นปี จึงเห็นควรให้ส่วนราชการเร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในปีงบประมาณ
2.3 เนื่องจากสัดส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนในช่วงที่ผ่านมาปรากฏว่า งบประมาณรายจ่ายลงทุนประมาณร้อยละ 50 จะเบิกจ่ายในส่วนภูมิภาค จึงเห็นควรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการในจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งรัดให้สามารถดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินได้ตามเป้าหมายหรือตามแผนที่ส่วนราชการวางไว้ ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 กระทรวงการคลังได้สั่งการให้สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศจัดทำรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543 ของจังหวัด เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการติดตามและแก้ไขปัญหาในการใช้จ่ายเงินได้อย่างทันท่วงที
2.4 กระทรวงการคลังมีข้อสังเกตว่า เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ให้เสร็จทันภายในปีงบประมาณ อันเป็นการรักษาวินัยทางการคลังและให้การจัดสรรงบประมาณในแต่ละปีเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับความสามารถในการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จึงสมควรที่จะให้มีการนำผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของแต่ละหน่วยงานในอดีต โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่าง ๆ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 และปีต่อ ๆ ไป และขอให้สำนักงบประมาณรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 เมษายน 2543--