คณะรัฐมนตรีรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เสนอรายงานเกี่ยวกับการขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย สรุปได้ดังนี้
1.1 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการสำรวจออกแบบรายละเอียดด้านวิศวกรรมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment - EIA) ลงนามในสัญญาจ้างเมื่อวันที่24 กันยายน 2539 วงเงินค่าจ้าง 122,846,000 บาท บริษัทที่ปรึกษาเริ่มงานสำรวจออกแบบเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน2539 ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ และเสนอรายงานขั้นสุดท้ายเมื่อเดือนมิถุนายน 2541 และจากผลการสำรวจออกแบบฯบริษัทที่ปรึกษาได้ประมาณราคาค่าก่อสร้างและเวนคืนที่ดิน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 21,106 ล้านบาท (มูลค่าโครงการ ณ อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 40 บาท) ทั้งนี้ เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยได้พิจารณาปรับปรุงวงเงินค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามอัตราเงินเฟ้ออัตรา 2% ต่อปี และอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 45 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับมูลค่าการก่อสร้างจริงในปัจจุบันแล้ว วงเงินค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นจะประมาณ 24,161 ล้านบาท
1.2 สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2543 เห็นชอบในหลักการตามร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย นั้น การรถไฟแห่งประเทศไทยมีแผนที่จะเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2545 จำนวน 117 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ (ส่วนหนึ่ง)
1.3 ในเรื่องการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟ นั้นกระทรวงคมนาคมได้มีคำสั่งที่ 65/2542 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2542 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาจัดหาเงินทุนสำหรับก่อสร้างทางรถไฟ ซึ่งผลการพิจารณาสรุปให้โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ได้รับการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญไว้เป็นโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ที่ควรดำเนินการในระยะแรก เพราะมีความพร้อมและความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่สามารถพัฒนาขยายโครงข่ายเชื่อมสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ (คุนหมิง) ได้ในอนาคต
1.4 การรถไฟแห่งประเทศไทย และ China Railway Communication Corporation Ltd. (CRC)แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมหารือเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2544 ถึงลู่ทางของการประสานความร่วมมือกันในการส่งเสริมและพัฒนาเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งผู้แทนของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้ความสนใจโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย โดยเห็นว่า หากผลการดำเนินงานโครงการดังกล่าวสามารถบรรลุความสำเร็จจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศในกลุ่มอาเซียน ในการนี้ CRC ได้เสนอว่าฝ่ายจีนพร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวให้โดยฝ่ายไทยชำระคืนด้วยวิธี Counter - trade สินค้าผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ
1.5 โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้สนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายและระบบการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชน (Mass Transportation) ตามแนวนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่กำหนดไว้ในแผนหลักการขนส่ง พ.ศ. 2542 - 2549 นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางสายยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางรถไฟ Trans Asian Railway จากสาธารณรัฐสิงคโปร์สู่สาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการค้า และระบบคมนาคมขนส่งในภูมิภาคนี้ในอนาคต จึงควรได้รับการพิจารณาให้เร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว
1.6 การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยความเห็นชอบตามมติคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยครั้งที่ 8/2544 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2544 ได้เสนอรายงานต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบในการดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ดังนี้
1) อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ภายในกรอบวงเงินลงทุนรวม 24,161 ล้านบาท ตามที่ได้สำรวจออกแบบรายละเอียดไว้แล้ว โดยมีแนวทางการลงทุน 2 ลักษณะ คือ
(1) ให้เอกชนดำเนินการก่อสร้างให้ก่อน (Turnkey) และรัฐบาลไทยจ่ายค่าก่อสร้างคืนด้วยวิธี Counter - trade ด้วยผลิตผลการเกษตรภายในประเทศ หรือ
(2) ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโดยให้ได้รับสัมปทานโครงการภายในกำหนดเวลา (Concession)และรัฐบาลให้การสนับสนุนในเงื่อนไขบางประการ รวมทั้งการเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์
2) จัดสรรวงเงินงบประมาณเพื่อการเวนคืนที่ดินสำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย เพื่อดำเนินการได้ทันทีหลังจากพระราชกฤษฎีกามีผลประกาศใช้บังคับ
3) อนุมัติให้ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีในการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ เพื่อก่อสร้างทางรถไฟบางส่วน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมด้านเศรษฐกิจของประเทศ
2. กระทรวงคมนาคมพิจารณารายงานตามข้อ 1 แล้ว เห็นว่าโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย เป็นโครงการที่มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้านคมนาคมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายคมนาคมขนส่ง และสื่อสารบนพื้นฐานของการเกื้อหนุนการผลิต การสร้างงาน และการสร้างรายได้ และนโยบายการปรับปรุงและพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และเครือข่ายการคมนาคมภายในประเทศให้เชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าว เป็นผลการศึกษาที่ได้จัดทำขึ้นแล้วเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ก่อนที่ประเทศไทยจะประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 และในปัจจุบันแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้ชะลอตัวลง อันจะส่งผลต่อผลประโยชน์ของโครงการทั้งทางด้านการเงินและเศรษฐกิจที่คาดว่าน่าจะลดลง ประกอบกับค่าก่อสร้างโครงการได้เพิ่มสูงขึ้นมาก คือ จาก 8,450 ล้านบาท เป็น 24,161 ล้านบาท ทำให้ส่งผลต่อความคุ้มค่าทางด้านการเงินและเศรษฐกิจของโครงการ ดังนั้นเพื่อให้ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการทางด้านเศรษฐกิจและการเงินสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน กระทรวงคมนาคมจึงได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2544 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-
1. การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เสนอรายงานเกี่ยวกับการขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย สรุปได้ดังนี้
1.1 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการสำรวจออกแบบรายละเอียดด้านวิศวกรรมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment - EIA) ลงนามในสัญญาจ้างเมื่อวันที่24 กันยายน 2539 วงเงินค่าจ้าง 122,846,000 บาท บริษัทที่ปรึกษาเริ่มงานสำรวจออกแบบเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน2539 ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ และเสนอรายงานขั้นสุดท้ายเมื่อเดือนมิถุนายน 2541 และจากผลการสำรวจออกแบบฯบริษัทที่ปรึกษาได้ประมาณราคาค่าก่อสร้างและเวนคืนที่ดิน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 21,106 ล้านบาท (มูลค่าโครงการ ณ อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 40 บาท) ทั้งนี้ เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยได้พิจารณาปรับปรุงวงเงินค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามอัตราเงินเฟ้ออัตรา 2% ต่อปี และอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 45 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับมูลค่าการก่อสร้างจริงในปัจจุบันแล้ว วงเงินค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นจะประมาณ 24,161 ล้านบาท
1.2 สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2543 เห็นชอบในหลักการตามร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย นั้น การรถไฟแห่งประเทศไทยมีแผนที่จะเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2545 จำนวน 117 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ (ส่วนหนึ่ง)
1.3 ในเรื่องการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟ นั้นกระทรวงคมนาคมได้มีคำสั่งที่ 65/2542 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2542 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาจัดหาเงินทุนสำหรับก่อสร้างทางรถไฟ ซึ่งผลการพิจารณาสรุปให้โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ได้รับการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญไว้เป็นโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ที่ควรดำเนินการในระยะแรก เพราะมีความพร้อมและความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่สามารถพัฒนาขยายโครงข่ายเชื่อมสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ (คุนหมิง) ได้ในอนาคต
1.4 การรถไฟแห่งประเทศไทย และ China Railway Communication Corporation Ltd. (CRC)แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมหารือเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2544 ถึงลู่ทางของการประสานความร่วมมือกันในการส่งเสริมและพัฒนาเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งผู้แทนของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้ความสนใจโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย โดยเห็นว่า หากผลการดำเนินงานโครงการดังกล่าวสามารถบรรลุความสำเร็จจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศในกลุ่มอาเซียน ในการนี้ CRC ได้เสนอว่าฝ่ายจีนพร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวให้โดยฝ่ายไทยชำระคืนด้วยวิธี Counter - trade สินค้าผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ
1.5 โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้สนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายและระบบการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชน (Mass Transportation) ตามแนวนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่กำหนดไว้ในแผนหลักการขนส่ง พ.ศ. 2542 - 2549 นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางสายยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางรถไฟ Trans Asian Railway จากสาธารณรัฐสิงคโปร์สู่สาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการค้า และระบบคมนาคมขนส่งในภูมิภาคนี้ในอนาคต จึงควรได้รับการพิจารณาให้เร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว
1.6 การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยความเห็นชอบตามมติคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยครั้งที่ 8/2544 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2544 ได้เสนอรายงานต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบในการดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ดังนี้
1) อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ภายในกรอบวงเงินลงทุนรวม 24,161 ล้านบาท ตามที่ได้สำรวจออกแบบรายละเอียดไว้แล้ว โดยมีแนวทางการลงทุน 2 ลักษณะ คือ
(1) ให้เอกชนดำเนินการก่อสร้างให้ก่อน (Turnkey) และรัฐบาลไทยจ่ายค่าก่อสร้างคืนด้วยวิธี Counter - trade ด้วยผลิตผลการเกษตรภายในประเทศ หรือ
(2) ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโดยให้ได้รับสัมปทานโครงการภายในกำหนดเวลา (Concession)และรัฐบาลให้การสนับสนุนในเงื่อนไขบางประการ รวมทั้งการเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์
2) จัดสรรวงเงินงบประมาณเพื่อการเวนคืนที่ดินสำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย เพื่อดำเนินการได้ทันทีหลังจากพระราชกฤษฎีกามีผลประกาศใช้บังคับ
3) อนุมัติให้ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีในการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ เพื่อก่อสร้างทางรถไฟบางส่วน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมด้านเศรษฐกิจของประเทศ
2. กระทรวงคมนาคมพิจารณารายงานตามข้อ 1 แล้ว เห็นว่าโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย เป็นโครงการที่มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้านคมนาคมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายคมนาคมขนส่ง และสื่อสารบนพื้นฐานของการเกื้อหนุนการผลิต การสร้างงาน และการสร้างรายได้ และนโยบายการปรับปรุงและพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และเครือข่ายการคมนาคมภายในประเทศให้เชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าว เป็นผลการศึกษาที่ได้จัดทำขึ้นแล้วเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ก่อนที่ประเทศไทยจะประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 และในปัจจุบันแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้ชะลอตัวลง อันจะส่งผลต่อผลประโยชน์ของโครงการทั้งทางด้านการเงินและเศรษฐกิจที่คาดว่าน่าจะลดลง ประกอบกับค่าก่อสร้างโครงการได้เพิ่มสูงขึ้นมาก คือ จาก 8,450 ล้านบาท เป็น 24,161 ล้านบาท ทำให้ส่งผลต่อความคุ้มค่าทางด้านการเงินและเศรษฐกิจของโครงการ ดังนั้นเพื่อให้ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการทางด้านเศรษฐกิจและการเงินสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน กระทรวงคมนาคมจึงได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2544 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-