คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภท โรงเก็บ พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
พน. เสนอว่า พระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ได้แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “น้ำมันเชื้อเพลิง” ให้ครอบคลุมถึง ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และกฏกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2556 ข้อ 43 (7) และข้อ 44 (17) ที่กำหนดให้สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงเก็บ ลักษณะที่หนึ่ง และลักษณะที่สองเป็นกิจการควบคุมตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น สมควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงเก็บโดยอ้างอิงมาตรฐานสากลให้มีผลบังคับใช้ต่อไป เพื่อประโยชน์แก่ การป้องกันหรือระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหายหรืออันตรายที่จะมีผลกระทบต่อบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อมจากการประกอบกิจการสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงเก็บ ซึ่งคณะกรรมการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงเห็นชอบด้วย ประกอบกับได้ดำเนินการประชุมรับฟังความคิดเห็น (Focus group) จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบ ด้วยผู้ค้าน้ำมัน ผู้ประกอบการสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงเก็บ และตัวแทนสมาคมก๊าซปิโตรเลียวเหลวโดยได้นำข้อคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงฯ ด้วยแล้ว
1. กำหนดบทนิยามคำว่า “โรงเก็บ” “เขตโรงเก็บ” “ถังก๊าซหุงต้ม” “กระป๋องก๊าซ” และ “กำแพงกันไฟ”
2. กำหนดให้การคิดก๊าซปิโตรเลียมเหลวในถังก๊าซหุงต้มหรือกระป๋องก๊าซให้คิดคำนวณปริมาณ 1 ลิตร เท่ากับ 0.5 กิโลกรัม
3. กำหนดที่ตั้ง ลักษณะ และระยะปลอดภัยของสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงเก็บ
4. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีปริมาณไม่เกิน 2,400 ลิตรต่อหนึ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มห่างกันไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร
5. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการป้องกันและระงับอัคคีภัย โดยต้องมีระบบป้องกันภัยแบบ หัวกระจายน้ำดับเพลิง และเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 พฤษภาคม 2560--