ทำเนียบรัฐบาล--17 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. อนุมัติการแต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ดังนี้
1.1 ประธานกรรมการ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
1.2 กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน 1) นายอัมพร ด้วงปาน 2) นางมุกดา อินต๊ะสาร 3) นางพันทิพย์ บุตรตาด
1.3 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 1) นายศิริชัย สาครรัตนกุล 2) นายยุวัฒน์ วุฒิเมธี
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2543
2. อนุมัติตามมาตรา 41 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)พ.ศ. 2543 เพื่อให้มีการโอนอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินงบประมาณของโครงการพัฒนาคนจนในเมือง การเคหะแห่งชาติ และของสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบท สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่มีอยู่ในวันที่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2543 ใช้บังคับ(วันที่ 26 ตุลาคม 2543) ไปเป็นของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และให้ยุบเลิกโครงการพัฒนาคนจนในเมือง การเคหะแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบท สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2543
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเสนอว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้แทนองค์กรชุมชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสถาบันองค์กรชุมชน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2543 หลังจากนั้นคณะกรรมการเตรียมการฯ ได้ดำเนินภารกิจในการเตรียมการจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) แล้ว ดังนี้
1. ดำเนินการสรรหากรรมการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)พ.ศ. 2543 ตามนัยมาตรา 14 (1) (3) และ (4) ซึ่งประกอบด้วยประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชนสามคนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสองคน ตามข้อ 1. โดยผู้ได้รับการสรรหาดังกล่าวเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 15 และมาตรา 16 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2543 และตามคุณสมบัติเฉพาะที่คณะกรรมการเตรียมการฯ กำหนด
2. การเตรียมการโอนอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินงบประมาณของโครงการพัฒนาคนจนในเมือง การเคหะแห่งชาติ และของสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบท สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่มีอยู่ในวันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับไปเป็นของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และการยุบเลิกโครงการพัฒนาคนจนในเมือง และสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบทตามนัยมาตรา 41 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติตามข้อ 2 ซึ่งจากงบดุล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2543 สำนักงานกองทุนพัฒนาชนบทมีสินทรัพย์ 747.54 ล้านบาท และสำนักงานพัฒนาชุมชนเมืองมีสินทรัพย์ 1,699.22 ล้านบาท และงบประมาณที่สำนักงานพัฒนาชุมชนเมืองได้รับจากโครงการเสริมสร้างการแก้ไขปัญหาคนจนในเมืองในภาวะวิกฤต ซึ่งแยกเป็นโครงการแก้ไขปัญหาด้านการเงินและสินเชื่อสำหรับคนจนในเมือง 247.59 ล้านบาท และโครงการสวัสดิการผู้สูงอายุ 80 ล้านบาท รวมสินทรัพย์ทั้งหมดจำนวน 2,774.35 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 ต.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. อนุมัติการแต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ดังนี้
1.1 ประธานกรรมการ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
1.2 กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน 1) นายอัมพร ด้วงปาน 2) นางมุกดา อินต๊ะสาร 3) นางพันทิพย์ บุตรตาด
1.3 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 1) นายศิริชัย สาครรัตนกุล 2) นายยุวัฒน์ วุฒิเมธี
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2543
2. อนุมัติตามมาตรา 41 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)พ.ศ. 2543 เพื่อให้มีการโอนอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินงบประมาณของโครงการพัฒนาคนจนในเมือง การเคหะแห่งชาติ และของสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบท สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่มีอยู่ในวันที่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2543 ใช้บังคับ(วันที่ 26 ตุลาคม 2543) ไปเป็นของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และให้ยุบเลิกโครงการพัฒนาคนจนในเมือง การเคหะแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบท สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2543
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเสนอว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้แทนองค์กรชุมชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสถาบันองค์กรชุมชน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2543 หลังจากนั้นคณะกรรมการเตรียมการฯ ได้ดำเนินภารกิจในการเตรียมการจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) แล้ว ดังนี้
1. ดำเนินการสรรหากรรมการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)พ.ศ. 2543 ตามนัยมาตรา 14 (1) (3) และ (4) ซึ่งประกอบด้วยประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชนสามคนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสองคน ตามข้อ 1. โดยผู้ได้รับการสรรหาดังกล่าวเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 15 และมาตรา 16 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2543 และตามคุณสมบัติเฉพาะที่คณะกรรมการเตรียมการฯ กำหนด
2. การเตรียมการโอนอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน และเงินงบประมาณของโครงการพัฒนาคนจนในเมือง การเคหะแห่งชาติ และของสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบท สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่มีอยู่ในวันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับไปเป็นของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และการยุบเลิกโครงการพัฒนาคนจนในเมือง และสำนักงานกองทุนพัฒนาชนบทตามนัยมาตรา 41 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติตามข้อ 2 ซึ่งจากงบดุล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2543 สำนักงานกองทุนพัฒนาชนบทมีสินทรัพย์ 747.54 ล้านบาท และสำนักงานพัฒนาชุมชนเมืองมีสินทรัพย์ 1,699.22 ล้านบาท และงบประมาณที่สำนักงานพัฒนาชุมชนเมืองได้รับจากโครงการเสริมสร้างการแก้ไขปัญหาคนจนในเมืองในภาวะวิกฤต ซึ่งแยกเป็นโครงการแก้ไขปัญหาด้านการเงินและสินเชื่อสำหรับคนจนในเมือง 247.59 ล้านบาท และโครงการสวัสดิการผู้สูงอายุ 80 ล้านบาท รวมสินทรัพย์ทั้งหมดจำนวน 2,774.35 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 ต.ค. 2543--
-สส-