คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก ครั้งที่ 3/2544 เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศตามนโยบายการขยายการส่งออกไปตลาดใหม่ และได้มีมติเห็นชอบให้ย้ายสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม จากประเทศบรูไน ไปยังประเทศอียิปต์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก ครั้งที่ 3/2544 ที่ประชุมได้มีมติให้ความเห็นชอบให้ย้ายสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม จากประเทศบรูไน ไปยังประเทศอียิปต์ ซึ่งมีเหตุผลและความจำเป็นในการย้ายสำนักงานดังกล่าว ดังนี้
1. ประเทศบรูไนประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ มูลค่านำเข้าสินค้าไทยลดลงโดยตลอดจาก 70.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2540 เหลือเพียง 40.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2543 การสั่งซื้อสินค้าครั้งละไม่มาก ทำให้ต้นทุนการส่งออกสินค้าไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ประกอบกับประเทศบรูไนเป็นตลาดเล็กที่มีประชากรเพียง 3.4 แสนคน การทำกิจกรรมเจาะขยายตลาดมีผลน้อย การเร่งรัดขยายการส่งออกไปประเทศบรูไนจะไม่ทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นมากนัก
2. ส่วนการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเพียงแห่งเดียวที่ประเทศแอฟริกาใต้ และกำลังจะเปิดอีกแห่งที่ประเทศกานา
3. ประเทศอียิปต์เป็นตลาดที่มีประชากรมากถึง 66 ล้านคน และในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาประเทศอียิปต์ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายจากระบบควบคุมไปสู่ระบบเปิดมากขึ้น ได้ลดอัตราภาษีนำเข้า และลดการกีดกันการค้า ซึ่งต่อมาได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกในปี 2538
4. ประเทศอียิปต์เป็นตลาดที่ยังต้องการสินค้านำเข้าหลากหลาย และนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นทุกปีตลอดระยะเวลา 5 - 6 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ประเทศอียิปต์นำเข้าสินค้าจากไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 76.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2540 เป็น 140.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2543 จึงเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะสามารถเจาะขยายตลาดได้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหาร ผลิตภัณฑ์เหล็ก ยางพาราและผลิตภัณฑ์ใบยาสูบ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ
นอกจากนี้ ประเทศอียิปต์ยังเป็นประตูการค้าที่สำคัญ (gateway) ที่จะกระจายสินค้าไทยไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกาด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-
ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก ครั้งที่ 3/2544 ที่ประชุมได้มีมติให้ความเห็นชอบให้ย้ายสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม จากประเทศบรูไน ไปยังประเทศอียิปต์ ซึ่งมีเหตุผลและความจำเป็นในการย้ายสำนักงานดังกล่าว ดังนี้
1. ประเทศบรูไนประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ มูลค่านำเข้าสินค้าไทยลดลงโดยตลอดจาก 70.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2540 เหลือเพียง 40.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2543 การสั่งซื้อสินค้าครั้งละไม่มาก ทำให้ต้นทุนการส่งออกสินค้าไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ประกอบกับประเทศบรูไนเป็นตลาดเล็กที่มีประชากรเพียง 3.4 แสนคน การทำกิจกรรมเจาะขยายตลาดมีผลน้อย การเร่งรัดขยายการส่งออกไปประเทศบรูไนจะไม่ทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นมากนัก
2. ส่วนการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเพียงแห่งเดียวที่ประเทศแอฟริกาใต้ และกำลังจะเปิดอีกแห่งที่ประเทศกานา
3. ประเทศอียิปต์เป็นตลาดที่มีประชากรมากถึง 66 ล้านคน และในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาประเทศอียิปต์ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายจากระบบควบคุมไปสู่ระบบเปิดมากขึ้น ได้ลดอัตราภาษีนำเข้า และลดการกีดกันการค้า ซึ่งต่อมาได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกในปี 2538
4. ประเทศอียิปต์เป็นตลาดที่ยังต้องการสินค้านำเข้าหลากหลาย และนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นทุกปีตลอดระยะเวลา 5 - 6 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ประเทศอียิปต์นำเข้าสินค้าจากไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 76.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2540 เป็น 140.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2543 จึงเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะสามารถเจาะขยายตลาดได้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหาร ผลิตภัณฑ์เหล็ก ยางพาราและผลิตภัณฑ์ใบยาสูบ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ
นอกจากนี้ ประเทศอียิปต์ยังเป็นประตูการค้าที่สำคัญ (gateway) ที่จะกระจายสินค้าไทยไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกาด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-