1. เห็นชอบการลงนามและให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับยูเครนว่าด้วย ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางกฎหมายในเรื่องทางอาญา
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย
3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามในข้อ 2 ข้างต้น ในกรณีที่ผู้ลงนามไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
4. มอบหมายให้ กต. จัดทำสัตยาบันสารเพื่อให้สัตยาบันสนธิสัญญาดังกล่าวในโอกาสอันเหมาะสมตามที่จะตกลงกับฝ่ายยูเครนต่อไป
สาระสำคัญของร่างสนธิสัญญา มีประเด็นพันธกรณีที่จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางกฎหมายที่รัฐคู่สัญญาของสนธิสัญญาฯ ตกลงที่จะใช้มาตรการที่กว้างขวางที่สุดเพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องที่เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน การฟ้องคดี และกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องทางอาญา ไม่ว่าหน่วยงานที่ได้รับการร้องขอ หรือที่จะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายนั้น จะเป็นศาลหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจ รวมถึงการสืบพยานบุคคลและการสอบปากคำบุคคล การจัดหาให้ซึ่งข้อสนเทศ เอกสาร บันทึก และพยานหลักฐาน การส่งเอกสาร การปฏิบัติตามคำร้องขอในการค้นและการยึด การโอนตัวบุคคลที่ถูกคุมขังหรืออำนวยความสะดวกในการดำเนินการให้บุคคลอื่นไปปรากฏตัวในรัฐผู้ร้องขอเพื่อการสืบพยานบุคคล เป็นต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 พฤษภาคม 2560--