คณะรัฐมนตรีพิจารณาการจัดทำการตรวจลงตราเดียวในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ระหว่างไทยกับกัมพูชาตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการร่วมเพื่อพิจารณาการจัดทำการตรวจตราเดียว (Joint Committee on ACEMECS Single Visa) ฝ่ายไทย โดยมีองค์ประกอบดังนี้
อธิบดีกรมการกงสุล เป็นประธานคณะกรรมการร่วม กรรมการประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย โดยมี ผู้อำนวยการกองตรวจลงตราฯ กรมการกงสุล เป็นกรรมการและเลขานุการ และเจ้าหน้าที่กองตรวจลงตราฯ กรมการกงสุล เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยคณะกรรมการร่วมฯ ดังกล่าวจะพัฒนาและหารือกันต่อไปในอนาคตเกี่ยวกับข้อตกลงด้านการดำเนินการเพื่อให้การดำเนินโครงการนี้มีผลในทางปฏิบัติ
2. อนุมัติการลงนามใน MOU ในระหว่างการประชุมผู้นำ ACMECS ในวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2548 ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขที่มิใช่สาระสำคัญ ขอให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับฝ่ายกัมพูชา และสามารถดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิด “Four Countries, One Destination” ในการประชุมผู้นำในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่12 พฤศจิกายน 2546 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า โดยในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ประเทศสมาชิกจำต้องปรับปรุง สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามบิน และใช้ระบบการตรวจลงตราในลักษณะคล้ายกับ Schengen Visa และผู้นำของประเทศทั้งสามได้ยอมรับหลักการนี้ และได้มีการลงนามในปฏิญญาพุกามและเปลี่ยนชื่อเป็นกรอบยุทธศาสตร์ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS)
ต่อมาในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ACMECS ที่เมืองเสียมราฐ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ ACMECS Single Visa ภายใต้หลักการ ACMECS minus X เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด Five Countries, One Destination คือให้นักท่องเที่ยวสามารถขอรับการตรวจลงตราครั้งเดียว และใช้เข้าประเทศในกลุ่มนี้ได้ โดยไทยกับกัมพูชาจะดำเนินโครงการนำร่องไปก่อน เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมในการแก้ไขอุปสรรคที่อาจมี เช่น การแบ่งรายได้และการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกอื่นสามารถเข้าร่วมได้ในภายหลังเมื่อมีความพร้อม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้อนุมัติให้คณะทำงานฯ ไปประชุมเรื่อง ACMECS Single Visa ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 ซึ่งผลการประชุมที่สำคัญประการหนึ่งคือ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการจัดทำร่าง MOU ระหว่างไทยกับกัมพูชาเรื่องการจัดทำการตรวจลงตราเดียว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 ตุลาคม 2548--จบ--
1. อนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการร่วมเพื่อพิจารณาการจัดทำการตรวจตราเดียว (Joint Committee on ACEMECS Single Visa) ฝ่ายไทย โดยมีองค์ประกอบดังนี้
อธิบดีกรมการกงสุล เป็นประธานคณะกรรมการร่วม กรรมการประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้แทนกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย โดยมี ผู้อำนวยการกองตรวจลงตราฯ กรมการกงสุล เป็นกรรมการและเลขานุการ และเจ้าหน้าที่กองตรวจลงตราฯ กรมการกงสุล เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยคณะกรรมการร่วมฯ ดังกล่าวจะพัฒนาและหารือกันต่อไปในอนาคตเกี่ยวกับข้อตกลงด้านการดำเนินการเพื่อให้การดำเนินโครงการนี้มีผลในทางปฏิบัติ
2. อนุมัติการลงนามใน MOU ในระหว่างการประชุมผู้นำ ACMECS ในวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2548 ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขที่มิใช่สาระสำคัญ ขอให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับฝ่ายกัมพูชา และสามารถดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิด “Four Countries, One Destination” ในการประชุมผู้นำในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่12 พฤศจิกายน 2546 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า โดยในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ประเทศสมาชิกจำต้องปรับปรุง สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามบิน และใช้ระบบการตรวจลงตราในลักษณะคล้ายกับ Schengen Visa และผู้นำของประเทศทั้งสามได้ยอมรับหลักการนี้ และได้มีการลงนามในปฏิญญาพุกามและเปลี่ยนชื่อเป็นกรอบยุทธศาสตร์ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS)
ต่อมาในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ACMECS ที่เมืองเสียมราฐ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ ACMECS Single Visa ภายใต้หลักการ ACMECS minus X เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด Five Countries, One Destination คือให้นักท่องเที่ยวสามารถขอรับการตรวจลงตราครั้งเดียว และใช้เข้าประเทศในกลุ่มนี้ได้ โดยไทยกับกัมพูชาจะดำเนินโครงการนำร่องไปก่อน เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมในการแก้ไขอุปสรรคที่อาจมี เช่น การแบ่งรายได้และการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกอื่นสามารถเข้าร่วมได้ในภายหลังเมื่อมีความพร้อม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้อนุมัติให้คณะทำงานฯ ไปประชุมเรื่อง ACMECS Single Visa ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 ซึ่งผลการประชุมที่สำคัญประการหนึ่งคือ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการจัดทำร่าง MOU ระหว่างไทยกับกัมพูชาเรื่องการจัดทำการตรวจลงตราเดียว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 ตุลาคม 2548--จบ--