ทำเนียบรัฐบาล--19 ก.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบโครงการกองทุนปูนซีเมนต์สร้างยุ้งฉางกลาง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2537 เห็นชอบให้นำเงินส่วนที่ได้มาจากการขึ้นราคาจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ และผู้ผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศจ่ายสมทบ เพื่อใช้ชดเชยการนำเข้าปูนซีเมนต์ที่มีต้นทุนสูงกว่าราคาขายในประเทศในช่วงปี 2533-2535 และคงเหลืออยู่ จำนวน 300,000,000 บาท ไปใช้ดำเนินโครงการกองทุนปูนซีเมนต์สร้างยุ้งฉางกลาง เพื่อจัดสร้างยุ้งฉาง/ลานตากให้กลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ
จากการติดตาม ตรวจสอบ และจากรายงานผลการดำเนินงานผู้ได้รับการสนับสนุน ปี 2541-2542 ของจังหวัด ปรากฎว่า ผู้ได้รับการสนับสนุนฯ ประมาณร้อยละ 30 มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดี มีการใช้ประโยชน์จากยุ้งฉาง/ลานตากตลอดทั้งปี และประมาณร้อยละ 60 มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง สามารถใช้ประโยชน์จากยุ้งฉาง/ลานตาก เฉพาะช่วงฤดูการผลิต ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้สามารถพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ แต่ยังขาดเงินทุนหมุนเวียน วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำเนินกิจการ อาทิเช่น รถตัก เครื่องอบลดความชื้น รถบรรทุก เป็นต้น สำหรับกลุ่มที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 10 ไม่มีการใช้ประโยชน์จากยุ้งฉาง/ลานตาก หากจะพัฒนากลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ ให้ใช้ยุ้งฉาง/ลานตากได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ในการดำเนินการก็จะทำให้สามารถขยายกิจกรรมการช่วยเหลือสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง และกว้างขวางมากขึ้น จึงเห็นควรนำเงินกองทุนฯ ที่มีเหลืออยู่ จำนวน 27,305,503.53 บาท มาจัดสรรเป็นเงินยืมปลอดดอกเบี้ย ใช้จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ในการดำเนินการ รวมทั้งสำรองไว้พัฒนาบุคลากร/กลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ และเป็นค่าใช้จ่ายบริหารกองทุนฯ จำนวน 22,305,563.53 บาท และอีกจำนวน 5,000,000 บาท บริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยนำไปให้คณะกรรมการดำเนินงานบูรณะปฏิสังขรณ์โลหะปราสาทวัดราชนัดดารามวรวิหาร เพื่อน้อมถวายเป็นราชสักการะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 ก.ย. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบโครงการกองทุนปูนซีเมนต์สร้างยุ้งฉางกลาง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2537 เห็นชอบให้นำเงินส่วนที่ได้มาจากการขึ้นราคาจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ และผู้ผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศจ่ายสมทบ เพื่อใช้ชดเชยการนำเข้าปูนซีเมนต์ที่มีต้นทุนสูงกว่าราคาขายในประเทศในช่วงปี 2533-2535 และคงเหลืออยู่ จำนวน 300,000,000 บาท ไปใช้ดำเนินโครงการกองทุนปูนซีเมนต์สร้างยุ้งฉางกลาง เพื่อจัดสร้างยุ้งฉาง/ลานตากให้กลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ
จากการติดตาม ตรวจสอบ และจากรายงานผลการดำเนินงานผู้ได้รับการสนับสนุน ปี 2541-2542 ของจังหวัด ปรากฎว่า ผู้ได้รับการสนับสนุนฯ ประมาณร้อยละ 30 มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดี มีการใช้ประโยชน์จากยุ้งฉาง/ลานตากตลอดทั้งปี และประมาณร้อยละ 60 มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง สามารถใช้ประโยชน์จากยุ้งฉาง/ลานตาก เฉพาะช่วงฤดูการผลิต ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้สามารถพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ แต่ยังขาดเงินทุนหมุนเวียน วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำเนินกิจการ อาทิเช่น รถตัก เครื่องอบลดความชื้น รถบรรทุก เป็นต้น สำหรับกลุ่มที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 10 ไม่มีการใช้ประโยชน์จากยุ้งฉาง/ลานตาก หากจะพัฒนากลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ ให้ใช้ยุ้งฉาง/ลานตากได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ในการดำเนินการก็จะทำให้สามารถขยายกิจกรรมการช่วยเหลือสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง และกว้างขวางมากขึ้น จึงเห็นควรนำเงินกองทุนฯ ที่มีเหลืออยู่ จำนวน 27,305,503.53 บาท มาจัดสรรเป็นเงินยืมปลอดดอกเบี้ย ใช้จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ในการดำเนินการ รวมทั้งสำรองไว้พัฒนาบุคลากร/กลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ และเป็นค่าใช้จ่ายบริหารกองทุนฯ จำนวน 22,305,563.53 บาท และอีกจำนวน 5,000,000 บาท บริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยนำไปให้คณะกรรมการดำเนินงานบูรณะปฏิสังขรณ์โลหะปราสาทวัดราชนัดดารามวรวิหาร เพื่อน้อมถวายเป็นราชสักการะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 ก.ย. 2543--
-สส-