ทำเนียบรัฐบาล--23 ม.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย (เงินเกี๊ยว) ฤดูการผลิตปี 2544/2545 ในวงเงิน 10,000 ล้านบาท ก่อนที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังมีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
1. เห็นควรให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยโดยการรับซื้อลดเช็คเพื่อส่งเสริมการปลูกอ้อย (เช็คเกี๊ยว) ฤดูการผลิตปี 2544/2545 ของโรงงานน้ำตาลทั้ง 46 โรงงาน เพียงสถาบันเดียวต่อไป เพื่อง่ายต่อการควบคุมติดตามให้เป็นไปตามระบบของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่จะให้ความช่วยเหลือระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ก็ควรมุ่งให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาในส่วนของโรงงานน้ำตาล
2. เห็นควรให้ ธ.ก.ส. คิดอัตรารับซื้อลดเช็คในอัตราต่ำสุด ซึ่งเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นเยี่ยม (MLR) ของ ธ.ก.ส. (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 9 ต่อปี) และหาก ธ.ก.ส. ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ธ.ก.ส. ก็จะลดอัตรารับซื้อลดเช็คลงตามต้นทุนเงินที่ลดลง
3. การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ฤดูการผลิตปี 2544/2545 เห็นควรให้ถือปฏิบัติโดยใช้หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกับฤดูการผลิตปี 2543/2544
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความเห็นว่า ควรที่จะมีการศึกษาถึงวงเงินที่จำเป็นต้องใช้จริงในแต่ละปีรวมทั้งวงเงินและผลประโยชน์ที่ชาวไร่อ้อยได้รับจริงด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 ม.ค. 2544--
-สส-
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย (เงินเกี๊ยว) ฤดูการผลิตปี 2544/2545 ในวงเงิน 10,000 ล้านบาท ก่อนที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังมีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
1. เห็นควรให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยโดยการรับซื้อลดเช็คเพื่อส่งเสริมการปลูกอ้อย (เช็คเกี๊ยว) ฤดูการผลิตปี 2544/2545 ของโรงงานน้ำตาลทั้ง 46 โรงงาน เพียงสถาบันเดียวต่อไป เพื่อง่ายต่อการควบคุมติดตามให้เป็นไปตามระบบของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่จะให้ความช่วยเหลือระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ก็ควรมุ่งให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาในส่วนของโรงงานน้ำตาล
2. เห็นควรให้ ธ.ก.ส. คิดอัตรารับซื้อลดเช็คในอัตราต่ำสุด ซึ่งเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นเยี่ยม (MLR) ของ ธ.ก.ส. (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 9 ต่อปี) และหาก ธ.ก.ส. ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ธ.ก.ส. ก็จะลดอัตรารับซื้อลดเช็คลงตามต้นทุนเงินที่ลดลง
3. การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ฤดูการผลิตปี 2544/2545 เห็นควรให้ถือปฏิบัติโดยใช้หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกับฤดูการผลิตปี 2543/2544
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความเห็นว่า ควรที่จะมีการศึกษาถึงวงเงินที่จำเป็นต้องใช้จริงในแต่ละปีรวมทั้งวงเงินและผลประโยชน์ที่ชาวไร่อ้อยได้รับจริงด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 ม.ค. 2544--
-สส-