แท็ก
ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สภาผู้แทนราษฎร
กระทรวงการคลัง
คณะรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--25 ม.ค.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ ดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 เพิ่มบทนิยามคำว่า "กระทรวงเจ้าสังกัด" และ "เจ้ากระทรวง" ขึ้นใหม่ให้ได้ความชัดเจนครอบคลุมถึงหน่วยงานอิสระที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติในการสั่งจ่ายบำเหน็จบำนาญ
1.2 กำหนดหน่วยงานที่จะทำหน้าที่ควบคุมการเกษียณอายุของหน่วยงานอิสระที่จะตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน
1.3 กำหนดทายาทผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด ดังนี้
1) บุตรให้ได้รับสองส่วน ถ้าผู้ตายมีบุตรตั้งแต่สามคนขึ้นไป ให้ได้รับสามส่วน แต่บุตรซึ่งมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้วในวันที่ผู้นั้นตาย ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด เว้นแต่กำลังศึกษาในชั้นเตรียมอุดมศึกษาหรือชั้นอุดมศึกษาหรือชั้นการศึกษาที่ทางราชการรับรองให้เทียบเท่า และยังมีอายุไม่เกินยี่สิบหกปีบริบูรณ์ หรือเว้นแต่เป็นบุคคลซึ่งพิการถึงทุพพลภาพ
2) สามีหรือภริยาให้ได้รับหนึ่งส่วน
3) บิดามารดาหรือบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ให้ได้รับหนึ่งส่วน
ในกรณีที่ไม่มีทายาทดังกล่าว หรือทายาทนั้นได้ตายไปเสียก่อน ให้แบ่งเงินดังกล่าวระหว่างทายาทผู้มีสิทธิในอนุมาตราที่มีทายาทผู้มีสิทธิได้รับ
4) ในกรณีที่ไม่มีทายาทดังกล่าว ให้บุคคลซึ่งเจ้ากระทรวงพิจารณาเห็นว่ามีหลักฐานแสดงไว้ว่าเป็นผู้อยู่ในอุปการะของผู้ตาย ทั้งนี้ผู้อยู่ในอุปการะดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับบุตรตามข้อ 1) เป็นผู้รับบำเหน็จตกทอดตามส่วนที่เจ้ากระทรวงจะได้กำหนดให้
2. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ได้กำหนดทายาทผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด ดังนี้
2.1 บุตรให้ได้รับสองส่วน ถ้าสมาชิกผู้ตายมีบุตรตั้งแต่สามคนขึ้นไป ให้ได้รับสามส่วน แต่บุตรซึ่งมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้วในวันที่สมาชิกผู้นั้นตาย ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด เว้นแต่กำลังศึกษาในชั้นเตรียมอุดมศึกษาหรือชั้นอุดมศึกษาหรือชั้นการศึกษาที่ทางราชการรับรองให้เทียบเท่าและยังมีอายุไม่เกินยี่สิบหกปีบริบูรณ์ หรือเว้นแต่เป็นบุคคลซึ่งพิการถึงทุพพลภาพ
2.2 สามีหรือภริยาให้ได้รับหนึ่งส่วน
2.3 บิดามารดาหรือบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ให้ได้รับหนึ่งส่วน
ในกรณีที่ไม่มีทายาทในอนุมาตราใด หรือทายาทนั้นได้ตายไปเสียก่อน ให้แบ่งเงินดังกล่าวระหว่างทายาทผู้มีสิทธิในอนุมาตราที่มีทายาทผู้มีสิทธิได้รับ
2.4 ในกรณีที่ไม่มีทายาทดังกล่าว ให้บุคคลซึ่งเจ้ากระทรวงพิจารณาเห็นว่ามีหลักฐานแสดงไว้ว่าเป็นผู้ที่ได้อยู่ในอุปการะของสมาชิกผู้ตายตลอดมาโดยจำเป็นต้องมีผู้อุปการะ และความตายของสมาชิกผู้นั้นทำให้ได้รับความเดือดร้อนเพราะขาดความอุปการะ ทั้งนี้ผู้อยู่ในอุปการะดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับบุตรตามข้อ 2.1 เป็นผู้รับบำเหน็จตกทอดตามส่วนที่เจ้ากระทรวงจะได้กำหนดให้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 มกราคม 2543--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ ดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 เพิ่มบทนิยามคำว่า "กระทรวงเจ้าสังกัด" และ "เจ้ากระทรวง" ขึ้นใหม่ให้ได้ความชัดเจนครอบคลุมถึงหน่วยงานอิสระที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติในการสั่งจ่ายบำเหน็จบำนาญ
1.2 กำหนดหน่วยงานที่จะทำหน้าที่ควบคุมการเกษียณอายุของหน่วยงานอิสระที่จะตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน
1.3 กำหนดทายาทผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด ดังนี้
1) บุตรให้ได้รับสองส่วน ถ้าผู้ตายมีบุตรตั้งแต่สามคนขึ้นไป ให้ได้รับสามส่วน แต่บุตรซึ่งมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้วในวันที่ผู้นั้นตาย ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด เว้นแต่กำลังศึกษาในชั้นเตรียมอุดมศึกษาหรือชั้นอุดมศึกษาหรือชั้นการศึกษาที่ทางราชการรับรองให้เทียบเท่า และยังมีอายุไม่เกินยี่สิบหกปีบริบูรณ์ หรือเว้นแต่เป็นบุคคลซึ่งพิการถึงทุพพลภาพ
2) สามีหรือภริยาให้ได้รับหนึ่งส่วน
3) บิดามารดาหรือบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ให้ได้รับหนึ่งส่วน
ในกรณีที่ไม่มีทายาทดังกล่าว หรือทายาทนั้นได้ตายไปเสียก่อน ให้แบ่งเงินดังกล่าวระหว่างทายาทผู้มีสิทธิในอนุมาตราที่มีทายาทผู้มีสิทธิได้รับ
4) ในกรณีที่ไม่มีทายาทดังกล่าว ให้บุคคลซึ่งเจ้ากระทรวงพิจารณาเห็นว่ามีหลักฐานแสดงไว้ว่าเป็นผู้อยู่ในอุปการะของผู้ตาย ทั้งนี้ผู้อยู่ในอุปการะดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับบุตรตามข้อ 1) เป็นผู้รับบำเหน็จตกทอดตามส่วนที่เจ้ากระทรวงจะได้กำหนดให้
2. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ได้กำหนดทายาทผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด ดังนี้
2.1 บุตรให้ได้รับสองส่วน ถ้าสมาชิกผู้ตายมีบุตรตั้งแต่สามคนขึ้นไป ให้ได้รับสามส่วน แต่บุตรซึ่งมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้วในวันที่สมาชิกผู้นั้นตาย ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด เว้นแต่กำลังศึกษาในชั้นเตรียมอุดมศึกษาหรือชั้นอุดมศึกษาหรือชั้นการศึกษาที่ทางราชการรับรองให้เทียบเท่าและยังมีอายุไม่เกินยี่สิบหกปีบริบูรณ์ หรือเว้นแต่เป็นบุคคลซึ่งพิการถึงทุพพลภาพ
2.2 สามีหรือภริยาให้ได้รับหนึ่งส่วน
2.3 บิดามารดาหรือบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ให้ได้รับหนึ่งส่วน
ในกรณีที่ไม่มีทายาทในอนุมาตราใด หรือทายาทนั้นได้ตายไปเสียก่อน ให้แบ่งเงินดังกล่าวระหว่างทายาทผู้มีสิทธิในอนุมาตราที่มีทายาทผู้มีสิทธิได้รับ
2.4 ในกรณีที่ไม่มีทายาทดังกล่าว ให้บุคคลซึ่งเจ้ากระทรวงพิจารณาเห็นว่ามีหลักฐานแสดงไว้ว่าเป็นผู้ที่ได้อยู่ในอุปการะของสมาชิกผู้ตายตลอดมาโดยจำเป็นต้องมีผู้อุปการะ และความตายของสมาชิกผู้นั้นทำให้ได้รับความเดือดร้อนเพราะขาดความอุปการะ ทั้งนี้ผู้อยู่ในอุปการะดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับบุตรตามข้อ 2.1 เป็นผู้รับบำเหน็จตกทอดตามส่วนที่เจ้ากระทรวงจะได้กำหนดให้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 มกราคม 2543--